การสร้างสังคมคาร์บอนเป็นกลาง: บทบาทสถาบันอุดมศึกษาในการรับมือวิกฤตสภาพภูมิอากาศ

ตอนนี้บนโลกกำลังเผชิญกับวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรง การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมของมนุษย์ได้กลายเป็นประเด็นเร่งด่วนที่ต้องการการแก้ไขอย่างเป็นระบบ สถาบันอุดมศึกษาในฐานะแหล่งสร้างสรรค์องค์ความรู้และผู้นำการเปลี่ยนแปลงทางสังคม จึงมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมไปสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน

ด้วยความตระหนักในภารกิจดังกล่าว ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกับเครือข่าย C อุดมศึกษา – อพ.สธ. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จำนวน 15 มหาวิทยาลัย จึงได้จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ “การใช้ประโยชน์จากข้อมูลทรัพยากรท้องถิ่น เพื่อช่วยลดและชดเชยการปล่อยคาร์บอนจนเป็นกลาง” ระหว่างวันที่ 28-29 สิงหาคม 2568 ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคารองค์กรนักศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น

การอบรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักในการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในการคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร และการประเมินการกักเก็บคาร์บอนในภาคป่าไม้ รวมทั้งเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนสู่เป้าหมาย “สังคมคาร์บอนเป็นกลาง”

วันแรกของการอบรมเริ่มต้นด้วยการบรรยายเรื่อง “นโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนความเป็นกลางทางคาร์บอนในมหาวิทยาลัยขอนแก่น” โดยรองศาสตราจารย์ ดร.ชูพงษ์ ทองคำสมุทร รองอธิการบดีฝ่ายกายภาพและสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้นำเสนอวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ของมหาวิทยาลัยในการเป็นองค์กรต้นแบบด้านการจัดการคาร์บอน ตามด้วยการบรรยาย “แนวทางการคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กรในหน่วยงานมหาวิทยาลัย” โดยนายธนพันธ์ คันธศิริ รองผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ ศูนย์นวัตกรรมและบริการวิศวกรรม ที่ได้อธิบายระเบียบวิธีและเครื่องมือในการประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นระบบ

ช่วงบ่ายของวันแรกเป็นการฝึกปฏิบัติการคำนวณค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากกรณีศึกษากิจกรรมของมหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยนายธนพันธ์ คันธศิริ ที่ได้นำผู้เข้าร่วมลงมือปฏิบัติจริงในการใช้เครื่องมือและแนวทางการคำนวณ พร้อมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและการซักถามที่ช่วยให้ผู้เข้าร่วมเกิดความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

วันที่สองของการอบรมมุ่งเน้นไปที่การบรรยายและฝึกปฏิบัติหัวข้อ “แนวทางการประเมิน T-VER การกักเก็บคาร์บอนในภาคป่าไม้” โดยนายอภิสิทธิ์ เสนาวงค์ วิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ซึ่งได้นำเสนอกลไกการรับรองการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแบบสมัครใจของประเทศไทย และวิธีการประเมินศักยภาพของป่าไม้ในการดูดซับและกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ 

โครงการนี้สะท้อนการตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในด้านการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผ่านการสร้างความมุ่งมั่นและโครงการสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ขณะเดียวกันก็เป็นการสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนผ่านการรวมตัวของเครือข่ายมหาวิทยาลัยในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการอบรมครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างขีดความสามารถของบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษา ผู้เข้าร่วมได้รับความรู้และทักษะที่จำเป็นในการประเมินและจัดการคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาแผนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในสถาบันของตนเอง การเรียนรู้เกี่ยวกับกลไก T-VER และการประเมินการกักเก็บคาร์บอนในภาคป่าไม้ยังเปิดโอกาสให้สถาบันอุดมศึกษาสามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรป่าไม้ในพื้นที่เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ

การสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่าง 15 มหาวิทยาลัยในภูมิภาคเป็นอีกหนึ่งผลลัพธ์ที่มีคุณค่า เนื่องจากจะช่วยสร้างพลังรวมในการขับเคลื่อนนโยบายและมาตรการด้านการจัดการคาร์บอนในระดับภูมิภาค การแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวปฏิบัติที่ดีระหว่างสถาบันจะช่วยเร่งรัดการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ผลกระทบระยะยาวของโครงการนี้คาดว่าจะขยายไปสู่ชุมชนและสังคมในวงกว้าง เมื่อสถาบันอุดมศึกษาสามารถเป็นแบบอย่างในการจัดการคาร์บอนและถ่ายทอดความรู้สู่ชุมชนรอบข้าง การใช้ประโยชน์จากข้อมูลทรัพยากรท้องถิ่นเพื่อการลดและชดเชยการปล่อยคาร์บอนจะสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ให้กับชุมชน และช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติไปในตัว การอบรมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการสร้างความรู้ แต่ยังเป็นการปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งการเปลี่ยนแปลงที่จะเติบโตไปสู่การสร้างสังคมคาร์บอนเป็นกลางอย่างแท้จริง สอดคล้องกับพันธกิจของมหาวิทยาลัยขอนแก่นในการเป็นผู้นำการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน

 ลิงก์ข่าว, เพจ Facebook หรือสื่ออื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง https://www.facebook.com/share/p/1CX8avp7mQ/

ผู้ให้ข้อมูลติดต่อกลับ นางสาวพิมพิศา วอแพง 043202155 ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

SDGs13
Scroll to Top