สัมมนาวิชาการ KKUIC x CUSRI: การขับเคลื่อนธุรกิจยุคใหม่ด้วยแนวคิด BCG เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

ปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงที่เร่งด่วนของสภาพภูมิอากาศและความจำเป็นในการปรับโฉมระบบเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับหลักการพัฒนาที่ยั่งยืน การสร้างสรรค์แนวทางธุรกิจที่ผสานแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG Model) จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก สัมมนาวิชาการความร่วมมือระหว่างศูนย์บ่มเพาะนวัตกรรมมหาวิทยาลัยขอนแก่น (KKUIC) และสถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CUSRI) ภายใต้หัวข้อ “การขับเคลื่อนธุรกิจยุคใหม่ด้วยแนวคิด BCG” จึงเป็นการริเริ่มที่สำคัญในการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนสำหรับภาคธุรกิจและสังคมไทย

การจัดงานสัมมนาในวันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2567 ณ ห้องประชุม M5 อุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ตั้งแต่เวลา 08.30 น. ถึง 17.30 น. สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างพื้นที่เรียนรู้และแลกเปลี่ยนที่เข้มข้นและครอบคลุม โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ นักวิจัย และนักศึกษาให้สามารถประยุกต์ใช้แนวคิด BCG และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ในการดำเนินธุรกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม

หัวใจสำคัญของสัมมนาครั้งนี้อยู่ที่การกระตุ้นให้เกิดการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการลดของเสีย การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และการตั้งเป้าหมายลดคาร์บอนขององค์กร ซึ่งเป็นประเด็นที่เชื่อมโยงโดยตรงกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมที่โลกกำลังเผชิญอยู่ การนำเสนอแนวคิดและเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้เข้าร่วมสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรจึงเป็นเป้าหมายสำคัญ

การสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย ผู้ประกอบการ และหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อโครงการนำร่องเป็นอีกหนึ่งผลลัพธ์ที่สำคัญของสัมมนาครั้งนี้ การเชื่อมโยงภาคส่วนต่างๆ เข้าด้วยกันจะช่วยสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการพัฒนานวัตกรรมและการแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในระดับพื้นที่

ความโดดเด่นของสัมมนาครั้งนี้อยู่ที่การจัดทำแผนปฏิบัติ BCG ระยะ 90-180 วัน พร้อมระบบติดตามผล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมและสามารถวัดผลได้ การกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนและระบบติดตามที่เป็นระบบจะช่วยให้ผู้เข้าร่วมสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปฏิบัติจริงและประเมินผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวชี้วัดที่กำหนดขึ้นครอบคลุมทั้งในด้านความรู้และการปฏิบัติ ตั้งแต่การวัดจำนวนผู้เข้าร่วมและคะแนนความรู้ความมั่นใจก่อนและหลังการอบรม ไปจนถึงการติดตามจำนวนกิจการที่จัดทำและเริ่มดำเนินแผนปฏิบัติ BCG และมาตรการ 3R การวัดผลในเชิงปริมาณ เช่น ปริมาณของเสียที่ลดลงเป็นกิโลกรัมต่อเดือน การประหยัดพลังงานและน้ำ รวมถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่หลีกเลี่ยงได้ จะช่วยให้เห็นผลกระทบที่เป็นรูปธรรมของการนำแนวคิด BCG ไปปฏิบัติ

ผลลัพธ์ที่คาดหวังจากสัมมนาครั้งนี้มีความหลากหลายและครอบคลุม การพัฒนาชุดองค์ความรู้และคู่มือ BCG ที่เผยแพร่สู่สาธารณะ พร้อมด้วยการจัดคลินิกให้คำปรึกษารายเดือน จะช่วยขยายผลการเรียนรู้ไปสู่กลุ่มผู้สนใจที่กว้างขึ้น การที่ผู้ประกอบการนำร่องสามารถปรับปรุงกระบวนการผลิตและบริการเพื่อลดต้นทุนทรัพยากรอย่างเป็นรูปธรรม จะเป็นตัวอย่างที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการรายอื่น การเกิดขึ้นของโครงการทดลองอัปไซเคิลและการจัดการของเสียในพื้นที่ พร้อมด้วยตัวเลขติดตามรายเดือน จะสร้างแบบอย่างการปฏิบัติที่ดีและเป็นรูปธรรม ระบบติดตามผลระดับกิจการและภาพรวมจังหวัดผ่าน Dashboard และ Tracker จะช่วยให้การบริหารจัดการและการประเมินผลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ผลกระทบต่อชุมชนและสังคมที่คาดหวังจากสัมมนาครั้งนี้มีความกว้างไกลและยั่งยืน คุณภาพสิ่งแวดล้อมท้องถิ่นที่ดีขึ้นจากการลดของเสียและคาร์บอน จะส่งผลดีต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ การสร้างและขยายงานสีเขียว (Green Jobs) พร้อมด้วยการยกระดับทักษะแรงงาน จะช่วยสร้างโอกาสการจ้างงานใหม่และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของแรงงานไทย

การเสริมสร้างเครือข่ายนวัตกรรมท้องถิ่นให้เข้มแข็งและขยายผลสู่อำเภอและจังหวัดใกล้เคียง จะช่วยสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมที่ยั่งยืนและครอบคลุมพื้นที่กว้างขึ้น การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนหลัก ได้แก่ SDG 8 (งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ) SDG 9 (อุตสาหกรรม นวัตกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน) SDG 12 (การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน) SDG 13 (การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ) และ SDG 17 (ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน) จะช่วยยกระดับเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน

ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยขอนแก่นและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในการจัดสัมมนาครั้งนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการสร้างพลังร่วมระหว่างสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศ การแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ระหว่างสองสถาบันจะช่วยสร้างองค์ความรู้ที่สมบูรณ์และครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

สัมมนาวิชาการครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการถ่ายทอดความรู้เท่านั้น แต่ยังเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้เข้าร่วมในการเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกสำหรับสังคมและสิ่งแวดล้อม การนำแนวคิด BCG ไปประยุกต์ใช้ในธุรกิจและชีวิตประจำวันจะช่วยสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและเป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วนของสังคมไทย

ผู้ให้ข้อมูลติดต่อกลับ ณธกร เลิศพชรกมล 0914194546

Scroll to Top