มาตรการการเข้าถึงของนักศึกษา

โครงการเข้าถึงสตรี

1) การให้คำปรึกษาแก่สตรี

มหาวิทยาลัยขอนแก่นมุ่งมั่นส่งเสริมความเท่าเทียมด้านเพศและการสร้างความมั่นใจว่านักศึกษาหญิงจะได้รับการดูแลจนสำเร็จการศึกษา สามารถเติบโตทางด้านการวิชาการ วิชาชีพและการใช้ชีวิต โดยมหาวิทยาลัยขอนแก่นได้จัดให้มีการส่งเสริมสนับสนุนนักศึกษาหญิง ทั้งในด้านการสนับสนุนทุนการศึกษาและการช่วยเหลือทางการเงิน การเป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษา การช่วยอื่นๆเพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดี และการสำเร็จการศึกษาที่เพิ่มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องรวมทั้งการจัดสภาพแวดล้อมอื่นๆที่เอื้อต่อการเรียนและการใช้ชีวิตรวมทั้งการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตความรักการเจริญพันธุ์การป้องกันการท้องในวัยเรียนและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์การเผยแพร่ความรู้ผ่านการจัดเสวนาและการให้คำปรึกษาแบบส่วนตัวโดยศูนย์ให้คำปรึกษา “KKU MORE CARE”

“KKU MORE CARE” จัดให้มีการให้คำปรึกษาผ่านช่องทางออนไลน์และห้องส่วนตัวสำหรับนักศึกษาหญิงเป็นการเฉพาะและการดูแลนักศึกษาหญิงเป็นการพิเศษ เพื่อให้คำปรึกษานักศึกษาที่มีความกังวลด้านการเรียน การเงินครอบครัวเพื่อน ความรักมีบริการให้คำปรึกษาแบบเดินทางมาพบหรือนัดหมายขอรับคำปรึกษาทางออนไลน์โดยจองคิวล่วงหน้ารวมทั้งให้บริการแบบทดสอบทางจิตวิทยาเพื่อประเมินและคัดกรองสุขภาพใจในเชิงรุกมีนักศึกษาหญิงขอรับคำปรึกษาเป็นส่วนใหญ่หรือมากกว่าร้อยละ 85 %

2.โครงการดูแลสุขภาพสำหรับนักศึกษาหญิง(Health Services)
การฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี(HPV)
หน่วยปฐมภูมินักศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่นร่วมกับโรงพยาบาลศรีนครินทร์จัดกิจกรรมฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี(HPV) สำหรับนักศึกษาหญิงระดับปริญญาตรีทุกชั้นปีโดยมีรศ.ดร.เพ็ญศรีเจริญวานิชรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและนวัตวณิชย์มหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นเกียรติพร้อมด้วยดร.นพ.หิรัญวุฒิแพร่คุณธรรม 

ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่7 จังหวัดขอนแก่นร่วมติดตามกิจกรรม ในการนี้มีนักศึกษาหญิงที่สนใจเข้าร่วมฉีดวัคซีนทั้งสิ้น3,400 คน ณ ห้องประชุม3 ชั้น2 อาคารกิจกรรมองค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนวัคซีนจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่นร่วมกับหน่วยงานสำคัญได้แก่โรงพยาบาลขอนแก่นสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่7ขอนแก่น กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขและกองพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์มหาวิทยาลัยขอนแก่น

 

สำหรับการฉีดวัคซีนจะใช้วัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี9สายพันธุ์สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนและวัคซีน2 สายพันธุ์เข็มที่2สำหรับผู้ที่เคยฉีดวัคซีนครั้งแรกมาแล้ว(ผู้เข้าร่วมโครงการฉีดวัคซีนจำนวน 3400 คน เป็นนักศึกษาผู้หญิงทั้งหมด หรือ100%)

“นางสาวพิมลพรรณ ตังควุฒิวิจิตร

นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์สาขาพัฒนาสังคม. หนึ่งในผู้รับวัคซีนในวันนี้ เล่าว่า“หนูรู้จักโครงการนี้จากเพื่อนที่แชร์ข้อมูลมาให้ดูหนูมากับเพื่อน 3 คน เพราะคิดว่าการป้องกันไว้ดีกว่าแก้ไขพอสแกนตรวจสอบแล้วหนูยังไม่เคยรับวัคซีนเลยตัดสินใจมาฉีดอยากเชิญชวนให้เพื่อนๆ มาฉีดกันนะคะ เพราะถ้าเราเป็นอะไรไปแล้วเราจะเสียใจทีหลัง”

3) “วัยใสวัยรัก”ต้องรู้จัก“รัก” อย่างปลอดภัย

ในยุคที่สื่อออนไลน์เข้าถึงทุกเพศทุกวัยอย่างรวดเร็วการส่งต่อความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องเพศและสุขภาพจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่นและเยาวชนที่กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต

เมื่อวันที่14 กุมภาพันธ์พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับ“วันวาเลนไทน์”รายการ
เสวนากับหมอ มข. EP.45 ได้ถ่ายทอดสดผ่านเพจ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นภายใต้หัวข้อ“วัยใสวัยรักต้องรู้จัก‘รัก’อย่างปลอดภัย”

เพื่อเปิดพื้นที่ปลอดภัยในการพูดคุยเรื่องเพศสัมพันธ์การป้องกันโรคติดต่อและการสร้างความสัมพันธ์อย่างมีคุณภาพในหมู่วัยรุ่น

โดย คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่นโดยมีเป้าหมายเพื่อให้ความรู้ที่ถูกต้องเข้าถึงง่ายและน่าเชื่อถือผ่านช่องทางออนไลน์ที่เข้ากับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายในยุคปัจจุบันโดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษาผู้หญิงที่ต้องรู้จักรักและป้องกันตนเอง และมีภูมิคุ้มกันก่อนคนอื่นเพื่อสร้างสังคมในวัยเรียนที่ปลอดภัยห่างไกลจากการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์

4) คณะพยาบาลศาสตร์มข. เปิดเวทีแชร์องค์ความรู้สุขภาพ สร้างภูมิคุ้มกันให้วัยรุ่นไทยยุคใหม่“รักเป็นป้องกันเป็น”
วันที่2กันยายน พ.ศ. 2568 คณะพยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่นนำโดย ผศ.ดร.ขวัญสุดาบุญทศ ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์พร้อมด้วยคณาจารย์และนักศึกษาพยาบาล เข้าร่วมจัดบูธนิทรรศการ “รักไม่ป่อง” INU KKU SMART ในงานมหกรรม “วัยรุ่นยุคใหม่ใส่ใจสุขภาพ (รักเป็นป้องกันเป็น)” โดยมีนายแพทย์เอกชัยเพียรศรีวัชรา ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขตสุขภาพที่7เป็นประธานในพิธีเปิดในการนี้มีนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและเยาวชน
เข้าร่วมกิจกรรมอย่างคับคั่งณ ขอนแก่นฮอลล์ศูนย์การค้าเซ็นทรัลขอนแก่น สำหรับกิจกรรมภายในบูธ“รักไม่ป่อง” INU KKU SMART เป็นการนำเสนอความรู้เชิงวิชาการเกี่ยวกับการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และวิธีการคุมกำเนิดที่ถูกต้องผ่านกิจกรรมตอบคำถามเชิงสร้างสรรค์เกี่ยวกับการใช้ถุงยางอนามัยและสุขภาพวัยรุ่นพร้อมของที่ระลึกสำหรับผู้เข้าร่วม ซึ่งได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากกลุ่มเป้าหมาย ขณะเดียวกันยังเป็นเวทีให้นักศึกษาพยาบาลได้ฝึกทักษะการถ่ายทอดความรู้และการปฏิบัติงานจริงในด้านการสร้างเสริมสุขภาพ ทั้งนี้มหกรรมครั้งนี้จัดขึ้นโดยศูนย์อนามัยที่7 ขอนแก่นกรมอนามัยร่วมกับเทศบาลนครขอนแก่นและหน่วยงานภาคีเครือข่าย

เพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้แก่เด็กและเยาวชนเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพทั้งกายและใจ ยกระดับคุณภาพชีวิตของวัยรุ่นและแก้ไขปัญหาสำคัญด้านสุขภาพอย่างเป็นระบบ โดยภายในงานยังเต็มไปด้วยกิจกรรมหลากหลาย อาทิการเสวนา Talk กับเธอ เรื่อง“การตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่นและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์”โดย YOG สูตินรีแพทย์จากราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย การประกวด Cover Dance กิจกรรมเฝ้าระวังมะเร็งเต้านมและการจัดการความเครียดในวัยรุ่นนิทรรศการความรู้ด้านอนามัยการเจริญพันธุ์การจัดการพฤติกรรมเสี่ยงโภชนาการ และการป้องกันโรค รวมถึงการมอบอุปกรณ์จัดตั้งสถานีบริการสุขภาพในโรงเรียนนำร่อง(Health Station at School) การจัดงานครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างสังคมที่ให้ความรู้ความเข้าใจ และการป้องกันที่ถูกต้องแก่เยาวชน เพื่อให้เยาวชนเติบโตเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพและพร้อมเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป

5) อบรมเชิงปฏิบัติการ “Heal ใจยิ้มได้ก่อนใจพัง”
การอบรมครั้งนี้เป็นการสร้างพื้นที่ปลอดภัยและการดูแลสุขภาพจิตในวัยรุ่นในยุคที่เยาวชนต้องเผชิญกับความท้าทายหลากหลาย ทั้งด้านการเรียน การปรับตัวในสังคม และปัญหาส่วนบุคคล การเสริมสร้างความเข้มแข็งทางจิตใจจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้อย่างมั่นคง เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยในการดูแลสุขภาพจิตของผู้หญิงโดยเฉพาะ และส่งเสริมทักษะที่จำเป็นในการเผชิญกับปัญหาอย่างมีสติโดยมีการเสวนาในหัวข้อ”บทบาทของ Primary Care ในการดูแลสุขภาพจิตวัยรุ่น”โดยทีมวิทยากรจาก PCU 123 และผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวชเด็กและวัยรุ่นแบ่งปันประสบการณ์ในการดูแลนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและสนับสนุนการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับผู้หญิง มีผู้เข้าร่วมโครงการ 62 คน เป็นผู้หญิง47 คน (75.80%) ผู้ชาย 15 คน (24.20%)

Scholarship for female students

มหาวิทยาลัยขอนแก่นมุ่งมั่นที่จะสร้างความมั่นใจให้นักศึกษาหญิงทุกคนได้รับการสนับสนุนทางการเงินและทุนการศึกษาซึ่งมีความจำเป็นในการใช้ชีวิตและส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและการสำเร็จการศึกษาของนักศึกษาหญิงโดยปี2567(2024) มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้มีมีมอบทุนการศึกษาแบบให้เปล่าแก่นักศึกษาทั้งหมด 1,469 คน ในจำนวนนี้มีนักศึกษาหญิงที่ได้รับทุนการศึกษาแบบให้เปล่าจำนวน 1,014 คน คิดเป็นร้อยละ 69.02 ของนักศึกษาได้ทุนต่อนักศึกษาทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา จากที่นักศึกษาหญิงเคยได้รับทุนการศึกษาแบบให้เปล่าร้อยละ 55.78

ทุนการศึกษาสำหรับนักศึกษาหญิงภายใต้“โครงการเคเคยูวอลเลย์บอล อะคาเดมี”
มหาวิทยาลัยขอนแก่นจัดพิธีปฐมนิเทศและลงนามเซ็นสัญญารับทุนการศึกษา สำหรับนักกีฬา รุ่นที่1และรุ่นที่2 ประจำปี2568 เป็นทางการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อชี้แจงแนวทางในการดำเนินโครงการ ระเบียบ วินัยข้อบังคับและข้อตกลงร่วมกับนักกีฬาและผู้ปกครอง ตลอดจนแจ้งถึงสิทธิประโยชน์ที่นักกีฬาจะได้รับในระหว่างการเข้าร่วมโครงการ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจที่ตรงกันและสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาอย่างยั่งยืน สำหรับโครงการเคเคยูวอลเลย์บอล อะคาเดมี เป็นการคัดเลือกนักศึกษาหญิงเพื่อเข้าเรียนและรับทุนการศึกษา ปีละ 20 คน และมอบสวัสดิการอื่นๆ เช่นการอยู่หอพักมหาวิทยาลัยขอนแก่นฟรีจนว่าจะสำเร็จการศึกษา โดยมุ่งหวังจะเป็นการสร้างอาชีพนักศึกษาวอลเลย์บอลอาชีพให้คนอีสาน โดยมีการกระบวนการคัดเลือกนักเรียนหญิงที่มีศักยภาพเพื่อเข้ามาเรียนและรับทุนนักกีฬาดังกล่าว ทั้งการทดสอบทักษะพื้นฐาน ผลงานด้านการแข่งขันและการสัมภาษณ์โดยมหาวิทยาลัยมีความมุ่งมั่นพัฒนานักกีฬาระดับเยาวชนและมหาวิทยาลัยที่มีความสามารถด้านกีฬาวอลเลย์บอล ให้เติบโตทั้งในด้านทักษะและจิตใจ เพื่อก้าวสู่ความเป็นเลิศในระดับชาติและนานาชาติต่อไป

Other provision
มหาวิทยาลัยขอนแก่นมุ่งมั่นในการช่วยเหลือส่งเสริมบทบาทผู้หญิงในสังคมโครงการช่วยเหลือสังคมของมหาวิทยาลัยโดยความร่วมมือกับชุมชน รัฐบาล และหน่วยงานทั้งในระดับภูมิและประดับประเทศในปี2568 ได้แก่

1) มหาวิทยาลัยขอแก่นขับเคลื่อนความร่วมมือสร้างความเข้มแข็งสตรีและครอบครัวในภาคอีสานสู่ความเท่าเทียม
วันที่30 มีนาคม 2568 มหาวิทยาลัยขอนแก่นนำโดย ศ.ดร.ธิดารัตน์บุญมาศ รองอธิการบดีฝ่ายวิสาหกิจและสังคมยั่งยืนเข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการศูนย์บริหารการดูแลกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ(ศบปภ.) หรือDisaster Care Center for the Vulnerable (DCCV) เพื่อการดูแลกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยมหาวิทยาลัยขอนแก่น(มข.) บูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการ ต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับเศรษฐกิจและสังคมของภาคตะวันออกเหนือโดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ซึ่งดำเนินงานภายใต้กรอบความร่วมมือทางวิชาการเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ มหาวิทยาลัยได้ใช้ความเข้มแข็งด้านวิชาการและนวัตกรรม เพื่อส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนกลุ่มเปราะบางโดยเฉพาะกลุ่มสตรีที่ด้อยโอกาส ผ่านกิจกรรมต่างๆ อาท ิการพัฒนาทักษะอาชีพและการสร้างรายได้การจัดตั้งศูนย์เพศภาวะศึกษาศูนย์บริการแรงงานและการย้ายถิ่นระหว่างประเทศ ศูนย์ชุมชนอีสานศึกษา ศูนย์วิจัยชุมชนการบริบาลและดูแลผู้สูงอายุศูนย์วิจัยผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่และความพิการแต่กำเนิดของศีรษะและใบหน้าสถาบันวิจัยและบริการด้านออทิซึม จัดทำหลักสูตรฝึกอบรมการพัฒนาศักยภาพบุคลากรเพื่อการดูแลการจัดการเรียนการสอนแก่นักศึกษาที่มีความต้องการพิเศษการพัฒนาทักษะการคิดขั้นสูงทางคณิตศาสตร์ให้แก่นักเรียน โครงการแก้ปัญหาพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีและโครงการป้องกันและชะลอโรคไตเรื้อรังในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นต้น

2) มหาวิทยาลัยขอนแก่นส่งเสริมผ้าไทย หนุนผู้ประกอบการ OTOP เน้นกลุ่มอาชีพสตรีเพื่อสร้างรายได้สู่ชุมชน
วันที่11 มีนาคม 2568 ฝ่ายวิสาหกิจและสังคมยั่งยืนมหาวิทยาลัยขอนแก่นจัดเสวนาหารือแนวทางความร่วมมือการจัดกิจกรรมการพัฒนาและส่งเสริมผลิตภัณฑ์ผ้าไทย โดยความร่วมมือระหว่างศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยขอนแก่นและสมาคมส่งเสริมผ้าไทยจังหวัดขอนแก่นนำโดย นางยุพรัตน์ดวงดีทวีทรัพย์นายกสมาคมส่งเสริมผ้าไทยจังหวัดขอนแก่นพร้อมคณะ ณ ห้องประชุมกนกเชิงเทียน อาคารวิริยะบริการ วิทยาลัยการอาชีพขอนแก่นอำเภอชนบท จัหวัดขอนแก่นโดยมีผู้ประกอบการ OTOP กลุ่มอาชีพสตรีเข้าร่วมประชุมได้แก่กลุ่มท่อผ้าบ้านชัยเจริญกลุ่มท่อผ้าไหมบ้านหนองแวง กลุ่มท่อผ้าบ้านบะแหบ กลุ่มหัตกรรมคุ้มสุขโข วิสาหกิจชุมชนทอผ้าไหมมัดหมี่บ้านหัวฝาย กลุ่มทอผ้าไหมบ้านห้วยแก กลุ่มทอผ้าบ้านห้วยชันและกลุ่มท่อผ้าบ้านหนองผ้าปล้องการประชุมครั้งนี้มุ่งเน้นการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมจากเครือข่ายต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อเพิ่มรายได้และพัฒนาผลิตภัณฑ์จากผ้าไหมสู่การออกแบบและพัฒนาของที่ระลึกให้เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดขอนแก่นในรูปแบบผลิตภัณฑ์ร่วมสมัยเพื่อเป็นของฝากสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติโดยนำวัสดุจากเศษผ้าไหม ผ้าฝ้ายผ้าอื่นๆในชุมชน โดยเน้นศักยภาพและความถนัดของกลุ่มเป็นหลักเพื่อให้เกิดการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อย่างคุ้มค่าและช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจในชุมชนพร้อมทั้งยกระดับผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง มหาวิทยาลัยขอนแก่นมุ่งมั่นในการสนับสนุนบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ และสนับสนุนงบประมาณ เพื่อช่วยส่งเสริมสนับสนุนและบูรณาการการทำงานร่วมกับสมาคมส่งเสริมผ้าไทยจังหวัดขอนแก่นต่อไป เพื่อยกระดับผ้าไทยให้เป็นSoft Power ที่สามารถสร้างชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับสามารถสร้างรายได้ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการในจังหวัดขอนแก่นรวมถึงเป็นการสร้างโอกาสใหม่ๆในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกผ้าไหมจากชุมชนในท้องถิ่นอย่างมืออาชีพต่อไป มหาวิทยาลัยขอนแก่นพร้อมเดินหน้าสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าไทย ต่อยอดภูมิปัญญาสู่ระดับสากล

3) โครงการอบรมสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ หัวข้อ“ผู้หญิงยุคใหม่รู้ทันมะเร็งเต้านม”
โรงพยาบาลศรีนครินทร์คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้จัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ “ผู้หญิงยุคใหม่รู้ทันมะเร็งเต้านม” ขึ้นภายในงานคอนเสิร์ตการกุศล Hope For Health 2 เพื่อผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านม เมื่อวันเสาร์ที่30 กันยายน 2568 ณ ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น กิจกรรมครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งเต้านม ซึ่งยังคงเป็นภัยเงียบที่คร่าชีวิตผู้หญิงไทยจำนวนมากในแต่ละปีโดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงานและวัยผู้สูงอายุด้วยความเชื่อว่า“การรู้เท่าทันโรค” คือจุดเริ่มต้นของการมีสุขภาพที่ดีและยั่งยืน ภายในบูธนิทรรศการ “ผู้หญิงยุคใหม่รู้ทันมะเร็งเต้านม” มีการจัดแสดงข้อมูลที่เข้าใจง่ายเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงสัญญาณเตือนภัยวิธีการตรวจคัดกรองด้วยตนเอง และแนวทางในการป้องกันโรค รวมถึงมีการให้บริการตรวจประเมินสุขภาพเบื้องต้นด้วยเครื่องมือวิเคราะห์องค์ประกอบของร่างกาย (Body Composition) ได้แก่วัดมวลไขมัน มวลกล้ามเนื้อน้ำหนักและค่าดัชนีมวลกาย (BMI) เพื่อช่วยให้ผู้เข้าร่วมสามารถประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพของตนเอง และได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมจากทีมสุขศึกษา

กิจกรรมครั้งนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไปอย่างดีเยี่ยม มีผู้เข้าร่วมรับบริการจำนวนกว่า80 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงในช่วงวัยทำงานและครอบครัว(ร้อยละ 90 ของผู้เข้าร่วมงานทั้งหมด) โดยมีการประเมินผลการรับรู้เบื้องต้นพบว่าผู้เข้าร่วมสามารถเข้าใจข้อมูลด้านสุขภาพและวิธีการป้องกันโรคมะเร็งเต้านมได้อย่างถูกต้องมากขึ้นการจัดกิจกรรมในครั้งนี้มุ่งหวังให้ประชาชนสามารถเข้าถึง“ข้อมูลสุขภาพที่ถูกต้อง” และมี“พฤติกรรมสุขภาพเชิงรุก” 

ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ(Sustainable Development Goals: SDGs) โดยเฉพาะ เป้าหมายที่3 – การมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี(Good Health and Well-being) เพราะสุขภาพที่ดีคือจุดเริ่มต้นของคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนและเมื่อสังคมมีสุขภาพดีทุกคนก็จะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณค่าและมีอนาคตที่มั่นคงร่วมกัน

4) เสวนาวิชาการเพื่อขับเคลื่อนบทบาทพยาบาลส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่สู่ความยั่งยืนในโลกยุคใหม่
คณะพยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่นร่วมประชุมวิชาการระดับชาติขับเคลื่อนบทบาทพยาบาลส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่สู่ความยั่งยืนในโลกยุคใหม่ระหว่างวันที่16 – 18 กรกฎาคม 2568 ณ โรงแรมปรินซ์พาเลซ มหานาค กรุงเทพมหานคร คณะพยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่นนำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร.สมจิตรเมืองพิลรองคณบดีฝ่ายการศึกษา พร้อมด้วยอาจารย์คณะพยาบาลฯ เข้าร่วมการประชุมวิชาการและประชุมใหญ่สามัญประจำปี2568 ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ ภายใต้หัวข้อ“ความท้าทายของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในโลกหลากมิติ:บทบาทของพยาบาล” (The Challenges of Breastfeeding in a Complex World: Nurse’s Role) การประชุมในครั้งนี้เป็นเวทีสำคัญที่รวบรวมความรู้และประสบการณ์จากนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านการพยาบาลทั่วประเทศ เพื่อร่วมวิเคราะห์และแลกเปลี่ยน
ความคิดเห็นในประเด็นความท้าทายที่ซับซ้อนของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในบริบทปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทั้งในด้านสังคม วัฒนธรรม และเทคโนโลยีการมีส่วนร่วมในงานประชุมวิชาการครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ มหาวิทยาลัยขอนแก่นในการยืนหยัดเป็นผู้นำทางวิชาการและนวัตกรรมด้านสุขภาพแม่และเด็กพร้อมขับเคลื่อนบทบาทสำคัญของพยาบาลในระบบบริการสุขภาพที่สามารถตอบสนองต่อความท้าทายของโลกยุคใหม่ได้อย่างครบถ้วนและยั่งยืนตอกย้ำภาพลักษณ์ของคณะฯ ในฐานะองค์กรที่มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกมิติอย่างจริงจังและต่อเนื่อง

5) โครงการฝึกอบรม “Midwife Training Making Motherhood Safer” สร้างเครือข่ายผดุงครรภ์ลาว เสริมศักยภาพการดูแลแม่และเด็กกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ประเทศลาว
คณะพยาบาล มหาวิทยาลัยขอนแก่นจัดโครงการฝึกอบรม “Midwife Training Making Motherhood Safer” สร้างเครือข่ายผดุงครรภ์ลาว เสริมศักยภาพการดูแลแม่และเด็กเป็นโครงการฝึกอบรมระยะสั้น“Midwife Training Making Motherhood Safer: Strengthening Midwives’ Competencies for Safe Motherhood in Lao PDR” อย่างเป็นทางการภายใต้ความร่วมมือระหว่างคณะพยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่นและกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ และมีผู้แทนจากภาคส่วนต่างๆ เช่นผู้อำนวยการกองความร่วมมือด้านทุนกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ,กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประจำจังหวัดขอนแก่นผู้แทนจากโรงพยาบาลที่เป็นแหล่งฝึกในการอบรม เช่นศูนย์อนามัยที่7, โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น, โรงพยาบาลศรีนครินทร์และ โรงพยาบาลชุมแพ
สำหรับผู้เข้าอบรมครั้งนี้เป็นเจ้าหน้าที่ผดุงครรภ์จาก 12 แขวงทั่วสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว รวมทั้งสิ้น30 คน เป็นผู้หญิงทั้งหมด (100%) เพื่อเสริมสร้างความรู้ทักษะ และมาตรฐานการดูแลหญิงตั้งครรภ์และทารกแรกเกิดให้กับเจ้าหน้าที่ผดุงครรภ์ในลาว โดยทีมวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากคณะพยาบาลศาสตร์พร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การดูแลสุขภาพมารดาและเด็กระหว่างสองประเทศ นับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และสร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยของแม่และเด็กในภูมิภาคอย่างยั่งยืน

6. โครงการรวมพลังสตรีขอนแก่นขับเคลื่อน Soft Power สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
เนื่องในวันสตรีสากล จังหวัดขอนแก่นมีการจัดงานขับเคลื่อน Soft Power ด้วยพลังสตรีท้องถิ่นโดยคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้เข้าร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้และได้แสดงความมุ่งมั่นในการเป็นแหล่งความรู้และนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืนโดยสนับสนุนคณาจารย์และนักศึกษาในการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์สู่สาธารณชน สร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่นาความรู้ไปสร้างประโยชน์แก่สังคม ตลอดจนทำงานร่วมกับชุมชนและภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อประยุกต์ใช้ความรู้ด้านการออกแบบและสถาปัตยกรรมในการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน

อาจารย์จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้ร่วมเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษในหัวข้อ”Soft Power ที่ไม่ไกลตัวสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน”โดยเน้นย้ำว่า”Soft Power คือพลังที่ทุกคนมีอยู่แล้วโดยเฉพาะสตรีที่มีความละเอียดอ่อน มีความคิดสร้างสรรค์และมีความเข้าใจในมิติทางวัฒนธรรมและสังคม” ในการบรรยายได้นำเสนอแนวคิดการใช้Soft Power ในการพัฒนาชุมชนและสังคผ่านการนำทุนทุนทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่นและความคิดสร้างสรรค์มาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์และบริการในชุมชน พร้อมยกตัวอย่างความสำเร็จของกลุ่มสตรีในหลายจังหวัดที่สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่เป็นที่ยอมรับในระดับประเทศและนานาชาติกิจกรรมสำคัญภายในงานประกอบด้วยพัฒนาการจังหวัดขอนแก่นผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดขอนแก่นและกลุ่มสตรีจาก 26 อำเภอ โดยมีกิจกรรม สำคัญได้แก่การเชิดชูเกียรติ”สตรีดีเด่นด้านการพัฒนา ชุมชน” การบรรยายให้ความรู้เยาวชนกับ Soft Powerและ การจัดนิทรรศการแสดงผลงานและความสำเร็จของพลังสตรี

7. มหาวิทยาลัยขอนแก่นจัดงาน “ISAAN PRIDE 2025”
มหาวิทยาลัยขอนแก่นสนับสนุนการขับเคลื่อนความหลากหลายทางเพศ การศึกษา และสิ่งแวดล้อม เพื่อสังคมแห่งความเท่าเทียมและยั่งยืนในวันที่27 มิถุนายน 2568 โดยคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้จัดกิจกรรม “ISAAN PRIDE 2025” อย่างยิ่งใหญ่ภายใต้แนวคิด“Smart Pride and Environment” และจัดขบวนพาเหรด ท่ามกลาง ผู้บริหาร คณาจารย์บุคลากร นักศึกษา ภาคีเครือข่ายและประชาชนทั่วไป ที่มาร่วมกันแสดงออกถึงความหลากหลายทางเพศ สิ่งที่โดดเด่นในงานปีนี้คือการเชื่อมโยงกิจกรรมทางสังคมเข้ากับประเด็นด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนสะท้อนถึงความตั้งใจที่จะหลอมรวม “ความหลากหลาย ความรู้และความยั่งยืน” ให้กลายเป็นวิถีทางใหม่ของสังคมไทยยุคปัจจุบันโดยการจัดงานครั้งนี้ไม่เพียงแต่มุ่งส่งเสริมสิทธิของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศซึ่งสอดคล้องกับSDG 5: ความเท่าเทียมทางเพศ (Gender Equality) และการร่วมกันส่งเสียงคามเท่าเทียมในครั้งนี้ไม่ได้หยุดอยู่ที่การให้พื้นที่แสดงออกเท่านั้นแต่ยังรวมถึงการวางรากฐานของสังคมที่เข้าใจและยอมรับตั้งแต่ระดับนักศึกษาใหม่ไปจนถึงบุคลากรและประชาชน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของโลกในการสร้างสังคมที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังโดยเฉพาะในประเด็นความเท่าเทียมทางเพศ และ SDG 4: การศึกษาที่เท่าเทียมและครอบคลุม(Quality Education) การศึกษาที่เปิดกว้างให้ทุกคนได้เรียนรู้อย่างเท่าเทียมโดยปราศจากการตีตรา ในขณะเดียวกันการรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมที่ผสานอยู่ในงานอย่างแนบเนียน ไม่ว่าจะเป็นรถกอล์ฟพลังงานสะอาดที่ปรากฏในขบวน ตลอดจนเนื้อหาทางวัฒนธรรมที่หยิบยกประเด็นโลกร้อนและการอนุรักษ์ทรัพยากร กลายเป็นสิ่งสะท้อนว่า“Pride” ไม่ใช่เพียงเรื่องของเพศ แต่ยังเกี่ยวข้องกับการมีจิตสำนึกต่อโลกที่เราอาศัยอยู่ร่วมกันตาม SDG 11: Sustainable Communities เพื่อชุมชนยั่งยืน

ISAAN PRIDE 2025 ยังได้รับแรงสนับสนุนจากองค์กรและภาคีภายนอกจำนวนมากที่ร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม ได้แก่ฝ่ายวิสาหกิจและสังคมยั่งยืนมหาวิทยาลัยขอนแก่นซึ่งให้การสนับสนุนและผลักดันการจัดงานในมิติสังคมและสิ่งแวดล้อม, แว่นท็อปเจริญผู้สนับสนุนหลักในการขับเคลื่อนความหลากหลายทางเพศในครั้งนี้และขอบขอบคุณโรงพิมพ์มหาวิทยาลัยขอนแก่น,Hunan Shutai Overseas Study Consulting Service Co., Ltd. (书泰留学), Class Clinic, CHEMii แค่มีเคมี,หจก.นัสอะไหล่ซิ่ง,ศรีจันทร์นมสด, ดู๋ดี๋ชักธง สาขาโคลัมโบ, ตลาดกังสดาลไนท์,ปริ้นสีสุดสวย สาขา 1, Thongpoon Rice, เจ.เค.เครื่องเขียน, แลคตาซอย, CoCoa More, NETFLICK และวิทยาลัยนานาชาติมหาวิทยาลัยขอนแก่น นอกจากนี้ยังขอขอบคุณสโมสรนักศึกษาจากทุกคณะที่มาร่วมสร้างสีสันในขบวนพาเพรด pride ทุกแรงสนับสนุนคือพลังสำคัญในการร่วมกันขับเคลื่อนสังคมให้เปิดกว้างเห็นคุณค่าในความแตกต่างและเดินหน้าไปสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง

ในงานดังกล่าว มีการจัดเวทีเสวนาพิเศษงาน Isaan Pride Festival 2025 “Diversity, Equality and Soft Power” แนวนโยบายเพื่อความหลากหลาย ซอฟต์พาวเวอร์และความเป็นธรรมทางสังคม เมื่อวันที่30 มิถุนายน 2568 ณ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) จังหวัดขอนแก่นโดย อาจารย์ดร.ภีมากร โดมมงคล รักษาการผู้อำนวยการศูนย์เพศภาวะศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองในเวทีเสวนาพิเศษ “Diversity,  Equality and Soft Power” ซึ่งจัดขึ้นภายใต้บรรยากาศของ Isaan Pride Festival 2025 เทศกาลแห่งพลังความหลากหลาย และความสร้างสรรค์ของอีสานยุคใหม่“ความหลากหลายทางเพศจะเป็นพลังสร้างเมืองเท่าทันและยั่งยืนได้อย่างไร?” เวทีนี้เปิดพื้นที่ให้ทั้งนักวิชาการ ศิลปินนักเคลื่อนไหว และผู้เชี่ยวชาญ ได้ร่วมกันสะท้อนบทบาทของซอฟต์พาวเวอร์ความหลากหลายทางเพศ การสร้าง“พื้นที่ปลอดภัย(Safe Space)” สำหรับกลุ่มLGBTQ+ ร่วมไปถึงทุกความแตกต่างในสังคม และเทคโนโลยีAI ในฐานะเครื่องมือสำคัญของการพัฒนาสังคมในโลกปัจจุบัน
SDGs5
Scroll to Top