เลี้ยงลูกยุคใหม่ใช้ EF นำทาง สำหรับผู้ปกครองที่มีบุตรหลาน อายุ 3-12 ปี
การเลี้ยงดูเด็กไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการดูแลร่างกายให้แข็งแรงเท่านั้น แต่ยังต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาสุขภาพจิตและทักษะทางสมองที่จะเป็นรากฐานสำคัญของชีวิตในอนาคต คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ตระหนักถึงความท้าทายที่ผู้ปกครองในยุคปัจจุบันกำลังเผชิญ จึงได้จัดโครงการ “เลี้ยงลูกยุคใหม่ใช้ EF นำทาง สำหรับผู้ปกครองที่มีบุตรหลานอายุ 3-12 ปี” ขึ้นในวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เวลา 09.00-15.00 น. ณ ห้องประชุม Hybrid ชั้น 2 อาคารเรียนรวม คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
โครงการนี้เกิดขึ้นจากการตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพจิตเด็กวัยเรียน ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในปัจจุบัน เด็กในวัยนี้กำลังเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ทั้งการเรียน การปรับตัวทางสังคม และการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการและคุณภาพชีวิตในระยะยาว สถิติที่น่าเป็นห่วงชี้ให้เห็นว่าปัญหาสุขภาพจิตในเด็กวัยเรียนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยพบอาการซึมเศร้า วิตกกังวล และปัญหาพฤติกรรมต่างๆ มากขึ้น ซึ่งหากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาจส่งผลเสียต่อการเรียน ความสัมพันธ์กับผู้อื่น และการใช้ชีวิตในสังคม
ผู้ปกครองมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการสังเกต เฝ้าระวัง และให้การดูแลสุขภาพจิตของเด็ก อย่างไรก็ตาม หลายครอบครัวยังขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพจิตเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเข้าใจเกี่ยวกับ Executive Function หรือ EF ซึ่งเป็นทักษะทางสมองที่สำคัญในการควบคุมความคิด อารมณ์ และพฤติกรรม ทำให้ไม่สามารถให้การช่วยเหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่องว่างระหว่างความต้องการและความรู้นี้จึงเป็นแรงผลักดันสำคัญในการจัดโครงการนี้ขึ้น

โครงการนี้สะท้อนถึงการตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนข้อที่ 3 ที่เน้นการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับทุกคนในทุกช่วงวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมสุขภาพกายและสุขภาพจิตของเด็ก ซึ่งเป็นการลงทุนที่สำคัญที่สุดสำหรับอนาคตของสังคม การดูแลสุขภาพจิตเด็กไม่เพียงแต่ช่วยให้เด็กมีคุณภาพชีวิตที่ดีในปัจจุบัน แต่ยังเป็นการป้องกันปัญหาสุขภาพจิตในวัยผู้ใหญ่ และสร้างรากฐานสำหรับการพัฒนาศักยภาพของบุคคลอย่างเต็มที่
วัตถุประสงค์ของโครงการได้รับการออกแบบอย่างรอบคอบเพื่อให้ผู้ปกครองได้รับความรู้และทักษะที่จำเป็นอย่างครอบคลุม ประการแรกคือการช่วยให้ผู้ปกครองสามารถเข้าใจพัฒนาการทางจิตใจของเด็กวัยเรียน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการรู้ว่าอะไรเป็นเรื่องปกติและอะไรควรได้รับความสนใจเป็นพิเศษ ประการที่สองคือการช่วยให้ผู้ปกครองสามารถสังเกตและประเมินสัญญาณเบื้องต้นของปัญหาสุขภาพจิตในเด็ก ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในการตรวจพบปัญหาตั้งแต่เนิ่นๆ และให้การช่วยเหลือได้ทันท่วงที

ประการที่สามคือการช่วยให้ผู้ปกครองสามารถส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดีผ่านกิจกรรมและการสื่อสารในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ความรู้เกี่ยวกับ Executive Function ในการออกแบบกิจกรรมและวิธีการเลี้ยงดูที่ช่วยพัฒนาทักษะการควบคุมตนเอง การวางแผน การจัดการอารมณ์ และการแก้ปัญหาของเด็ก ซึ่งเป็นทักษะสำคัญที่จะช่วยให้เด็กสามารถรับมือกับความท้าทายในชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประการสุดท้ายคือการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองเกี่ยวกับการให้การช่วยเหลือเบื้องต้นเมื่อพบปัญหา และรู้จักวิธีการส่งต่อเพื่อรับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างระบบการดูแลที่ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ
การดำเนินงานของโครงการได้รับการออกแบบให้เป็นกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม โดยทีมจิตแพทย์เด็กและทีมสหสาขาวิชาชีพที่มีประสบการณ์จะถ่ายทอดความรู้ผ่านการบรรยาย การอภิปราย และกิจกรรมเชิงปฏิบัติการ ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับแนวคิด Executive Function ซึ่งประกอบด้วยทักษะสำคัญหลายด้าน เช่น ความจำเพื่อการทำงาน (Working Memory) การยับยั้งชั่งใจ (Inhibitory Control) และความยืดหยุ่นทางความคิด (Cognitive Flexibility) ซึ่งล้วนเป็นทักษะที่สามารถพัฒนาได้ผ่านการเลี้ยงดูและกิจกรรมที่เหมาะสม
รูปแบบการจัดงานแบบ Hybrid ที่ผสมผสานระหว่างการเข้าร่วมแบบพบปะกันโดยตรงและแบบออนไลน์ ช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงโครงการสำหรับผู้ปกครองที่อยู่ในพื้นที่ต่างๆ ทำให้ความรู้สามารถเผยแพร่ไปได้กว้างขวางยิ่งขึ้น และลดข้อจำกัดด้านสถานที่และเวลาที่อาจเป็นอุปสรรคในการเข้าร่วม การจัดงานตลอดทั้งวันตั้งแต่เวลา 09.00-15.00 น. ยังให้เวลาเพียงพอสำหรับการเรียนรู้อย่างลึกซึ้งและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างผู้ปกครองด้วยกัน

ผลที่คาดว่าจะได้รับจากโครงการนี้มีความสำคัญต่อการสร้างความยั่งยืนในการดูแลสุขภาพจิตเด็ก เมื่อผู้เข้ารับการอบรมสามารถเข้าใจพัฒนาการทางจิตของเด็กวัยเรียนเพิ่มขึ้น พวกเขาจะสามารถให้การดูแลและส่งเสริมพัฒนาการได้อย่างเหมาะสมกับวัย ลดความวิตกกังวลที่ไม่จำเป็น และเพิ่มความมั่นใจในการเป็นผู้ปกครอง ความรู้เกี่ยวกับ Executive Function จะช่วยให้ผู้ปกครองสามารถออกแบบกิจกรรมและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาทักษะสำคัญเหล่านี้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเด็กตลอดชีวิต
ผลกระทบระยะยาวของโครงการนี้จะขยายวงกว้างไปสู่ชุมชนและสังคม เมื่อผู้ปกครองที่ผ่านการอบรมนำความรู้ไปปรับใช้กับบุตรหลานของตนเอง และแบ่งปันความรู้ให้กับผู้ปกครองคนอื่นๆ ในชุมชน จะเกิดเป็นวงจรของการเรียนรู้และการพัฒนาที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เด็กที่ได้รับการดูแลสุขภาพจิตที่ดีจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสามารถในการจัดการอารมณ์ แก้ปัญหา และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของสังคมที่เข้มแข็งและยั่งยืน

โครงการ “เลี้ยงลูกยุคใหม่ใช้ EF นำทาง” จึงเป็นมากกว่าการอบรมเพียงครั้งเดียว แต่เป็นการปลูกเมล็ดพันธุ์ของการเปลี่ยนแปลงที่จะเติบโตและส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของเด็กและครอบครัวในระยะยาว สะท้อนถึงพันธกิจของมหาวิทยาลัยขอนแก่นในการเป็นแหล่งความรู้และการพัฒนาที่ตอบสนองต่อความต้องการที่แท้จริงของสังคม ด้วยการนำความเชี่ยวชาญทางวิชาการมาถ่ายทอดในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและนำไปปฏิบัติได้จริง โครงการนี้จึงเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมผ่านการส่งเสริมสุขภาพจิตและการพัฒนาศักยภาพของคนรุ่นใหม่อย่างยั่งยืน
ลิงก์ข่าว, เพจ Facebook หรือสื่ออื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง https://www.facebook.com/share/p/1AER9y5adx/
ผู้ให้ข้อมูลติดต่อกลับ นายสินสุวัฒน์ ใจดี เบอร์โทร. 63027-8 สังกัดสาขาวิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์