Lower Mekong Sustainability Partnership & Youth Climate Action การสานพลังเยาวชนลุ่มน้ำโขงเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างรุนแรง โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มน้ำโขงที่เป็นแหล่งต้นน้ำสำคัญและเป็นพื้นที่ที่มีประชากรหลายล้านคนพึ่พาอาศัย การสร้างความร่วมมือข้ามพรมแดนเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้จึงกลายเป็นความจำเป็นเร่งด่วน โครงการ “Lower Mekong Sustainability Partnership & Youth Climate Action” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างศูนย์บ่มเพาะนวัตกรรมมหาวิทยาลัยขอนแก่น (KKUIC) กับเครือข่ายพันธมิตรนานาชาติ จึงเป็นการริเริ่มที่สำคัญในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกสำหรับภูมิภาค

การจัดงานในวันที่ 6 ธันวาคม 2567 ณ มหาวิทยาลัยกานโท (Can Tho University) ประเทศเวียดนาม สะท้อนถึงจิตวิญญาณของความร่วมมือข้ามพรมแดนที่แท้จริง การเลือกจัดงานในประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศสำคัญของลุ่มน้ำโขง แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างการมีส่วนร่วมที่เท่าเทียมและการแลกเปลี่ยนความรู้ในพื้นที่ที่ประสบปัญหาโดยตรง ความแข็งแกร่งของโครงการนี้อยู่ที่เครือข่ายพันธมิตรที่หลากหลายและมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน การร่วมมือกับสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (Asian Institute of Technology) นำมาซึ่งความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ขณะที่ British Council มีบทบาทสำคัญในการสร้างเครือข่ายการศึกษาและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ส่วนมหาวิทยาลัยเซาธ์แฮมป์ตัน (University of Southampton) นำมาซึ่งองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ทางทะเลและสิ่งแวดล้อมที่ทันสมัย

วัตถุประสงค์หลักของโครงการมุ่งเน้นไปที่การยกระดับบทบาทของ KKUIC ในความร่วมมือข้ามพรมแดนด้านเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยการเชื่อมโยงมหาวิทยาลัย องค์กรพัฒนา และเครือข่ายเยาวชนลุ่มน้ำโขงเข้าด้วยกัน เพื่อรับมือกับความท้าทายด้านภูมิอากาศ ความมั่นคงทางน้ำ และการดำรงชีพอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นประเด็นที่เชื่อมโยงกันและส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้คนในภูมิภาคโดยตรง

การเสริมพลังเยาวชนและการพัฒนาทักษะด้านภูมิอากาศเป็นหัวใจสำคัญของโครงการ เยาวชนในฐานะกลุ่มที่จะต้องอยู่กับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระยะยาว จึงต้องได้รับการเตรียมความพร้อมทั้งในด้านความรู้ ทักษะ และเครื่องมือที่จำเป็นในการแก้ไขปัญหาและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง การสร้างความร่วมมือข้ามพรมแดนระหว่างเยาวชนจากประเทศต่างๆ ในลุ่มน้ำโขงจะช่วยสร้างเครือข่ายที่เข้มแข็งและยั่งยืน

การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เพื่อนำไปสู่ข้อเสนอเชิงนโยบายเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญ การรวบรวมความรู้ ประสบการณ์ และแนวปฏิบัติที่ดีจากหลากหลายประเทศและสถาบันจะช่วยสร้างฐานข้อมูลที่สมบูรณ์สำหรับการกำหนดนโยบายที่มีประสิทธิภาพ การต่อยอดไปสู่แผนปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมจะช่วยให้ความรู้และข้อเสนอต่างๆ สามารถนำไปสู่การปฏิบัติที่เกิดผลจริง วิธีการดำเนินงานของโครงการออกแบบมาให้ครอบคลุมและมีส่วนร่วม การจัดเวทีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจะช่วยให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นและมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางการทำงาน นิทรรศการเยาวชนจะเป็นพื้นที่สำหรับการแสดงผลงาน ความคิดสร้างสรรค์ และโซลูชันจากมุมมองของคนรุ่นใหม่ ส่วนเวิร์กช็อปจะเป็นการทำงานร่วมกันอย่างเข้มข้นเพื่อสร้างแผนปฏิบัติและข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ที่เป็นรูปธรรม

กลุ่มผู้ได้รับประโยชน์โดยตรงจากโครงการนี้ประกอบด้วยนักศึกษาและเยาวชนจากประเทศต่างๆ ในลุ่มน้ำโขง ซึ่งจะได้รับการพัฒนาทักษะ ความรู้ และเครือข่ายที่จำเป็นสำหรับการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในอนาคต นักวิจัยและหน่วยงานภาคีจะได้รับประโยชน์จากการแลกเปลี่ยนความรู้ การสร้างเครือข่ายความร่วมมือ และการเข้าถึงข้อมูลและทรัพยากรที่หลากหลาย

ผู้ได้รับประโยชน์อย่างอ้อมรวมถึงชุมชนในลุ่มน้ำโขงที่จะได้รับผลจากนโยบายและโครงการที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือนี้ ผู้ประกอบการเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมจะได้รับการสนับสนุนและโอกาสในการขยายผลงานของตนเองผ่านเครือข่ายที่เกิดขึ้น

โครงการนี้สะท้อนการตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในหลายมิติอย่างครอบคลุม ในด้านการศึกษาที่มีคุณภาพ การจัดกิจกรรมและการอบรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตจะช่วยสร้างศักยภาพของเยาวชนและผู้เข้าร่วม ในด้านความเท่าเทียมทางเพศ โครงการให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการเข้าถึงการศึกษาและความเป็นผู้นำของผู้หญิง รวมถึงการสร้างนโยบายและกิจกรรมที่ไม่เลือกปฏิบัติ ด้านน้ำสะอาดและสุขาภิบาล โครงการมุ่งเน้นการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อน้ำสะอาด การอนุรักษ์แหล่งน้ำ และการสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงทางน้ำ ในด้านการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โครงการครอบคลุมตั้งแต่การให้ความรู้ การส่งเสริมพลังงานคาร์บอนต่ำ ไปจนถึงการวางแผนรับมือภัยพิบัติและการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน

การใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศทางบกได้รับการส่งเสริมผ่านโครงการด้านการเกษตรและอาหารที่ยั่งยืน การจัดการที่ดินอย่างยั่งยืน และการอนุรักษ์ฟื้นฟูธรรมชาติ ส่วนในด้านความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โครงการนี้เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของการทำงานร่วมกันข้ามภาคส่วนและข้ามพรมแดน

ผลกระทบระยะยาวที่คาดหวังจากโครงการนี้จะเห็นได้ในหลายระดับ ในระดับบุคคล เยาวชนที่เข้าร่วมจะกลายเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่มีความรู้ ทักษะ และเครือข่ายที่จำเป็น ในระดับสถาบัน การสร้างความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและองค์กรต่างๆ จะช่วยยกระดับคุณภาพการวิจัยและการพัฒนานวัตกรรม

ในระดับภูมิภาค การสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่เข้มแข็งจะช่วยให้การแก้ไขปัญหาข้ามพรมแดนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การแลกเปลี่ยนความรู้และแนวปฏิบัติที่ดีจะช่วยยกระดับการจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมในทั้งภูมิภาค

โครงการ “Lower Mekong Sustainability Partnership & Youth Climate Action” จึงไม่เพียงแต่เป็นการจัดงานประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้เท่านั้น แต่เป็นการปูทางสำหรับการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนในภูมิภาคลุ่มน้ำโขง การเสริมพลังเยาวชนให้เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง การสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่เข้มแข็ง และการพัฒนาโซลูชันที่เป็นรูปธรรมจะช่วยให้ภูมิภาคนี้สามารถรับมือกับความท้าทายในอนาคตและสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนสำหรับคนรุ่นต่อไป

ลิงก์ข่าว, เพจ Facebook หรือสื่ออื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง https://www.ic.kku.ac.th/th/news-and-media/%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%a5%e0%b8%b1%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%8a%e0%b8%b2%e0%b8%95%e0%b8%b4-%e0%b8%a1%e0%b8%82-%e0%b8%9c%e0%b8%99%e0%b8%b6-2/

ผู้ให้ข้อมูลติดต่อกลับ ณธกร เลิศพชรกมล 0914194546 (โทรและไลน์) วิทยาลัยนานาชาติ

Scroll to Top