โครงการขับเคลื่อนขบวนการโรงเรียนพัฒนาตนเองเชิงพื้นที่ (TSQM-A) ปี 2567 จังหวัดขอนแก่น สร้างระบบนิเวศการศึกษาที่เข้มแข็งและยั่งยืนด้วยพลังแห่งการมีส่วนร่วม
การศึกษาไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายที่ซับซ้อนและหลากหลาย ตั้งแต่ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา คุณภาพการเรียนรู้ที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของศตวรรษที่ 21 ไปจนถึงการขาดเชื่อมโยงระหว่างการศึกษากับการพัฒนาท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของการทำงานแบบแยกส่วนด้วยการริเริ่มโครงการขับเคลื่อนขบวนการโรงเรียนพัฒนาตนเองเชิงพื้นที่ (TSQM-A) ปี 2567 จังหวัดขอนแก่น โครงการนี้เป็นการแปลงวิสัยทัศน์ของการปฏิรูปการศึกษาให้เป็นการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืน
ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 ถึงมิถุนายน 2568 โครงการได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ โดยได้รับการสนับสนุนจากภาคีเครือข่ายที่เข้มแข็ง ประกอบด้วยมูลนิธิการศึกษาเพื่อการพัฒนาทักษะการคิดและกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) การร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษา องค์กรพัฒนาเอกชน และกองทุนสาธารณะนี้สะท้อนถึงความเข้าใจที่ลึกซึ้งว่าการปฏิรูปการศึกษาที่แท้จริงต้องอาศัยพลังร่วมจากทุกภาคส่วนของสังคม

โครงการนี้เกิดขึ้นจากการสะสมประสบการณ์อันล้ำค่าจากผลการดำเนินงานโครงการโรงเรียนพัฒนาตนเอง (TSQP) ระหว่างปี 2562-2565 ซึ่งดำเนินการโดยหน่วยพัฒนาสถาบันวิจัยและพัฒนาวิชาชีพครูสำหรับอาเซียน มหาวิทยาลัยขอนแก่น การทำงานร่วมกับ 51 โรงเรียนใน 6 เขตพื้นที่การศึกษาในจังหวัดขอนแก่นได้เผยให้เห็นศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของการพัฒนาการศึกษาเชิงพื้นที่ที่ใช้หลักการกระจายความเป็นเจ้าของและอิสระในการบริหารจัดการ ความโดดเด่นของโครงการอยู่ที่การสร้างกลไกการทำงานที่บูรณาการและมีส่วนร่วม โดยมุ่งหวังให้เกิดการทำความเข้าใจแนวคิดการขับเคลื่อนขบวนการโรงเรียนพัฒนาตนเองร่วมกับภาคีเครือข่ายและผู้มีส่วนได้เสียด้านการศึกษาในระดับพื้นที่ การจัดทำโครงสร้างการบริหารจัดการที่ชัดเจนและการกำหนดบทบาทหน้าที่ในการขับเคลื่อนงานจึงเป็นรากฐานสำคัญของความสำเร็จ
การดำเนินงานครอบคลุมการจัดทำเป้าหมายและแผนการขับเคลื่อน (Action Plan) ที่เป็นรูปธรรม การสร้างความร่วมมือผ่านบันทึกข้อตกลง (MOU) ของภาคีเครือข่ายในระดับจังหวัดขอนแก่นทุกภาคส่วน และการเหนี่ยวนำโรงเรียนในพื้นที่มาร่วมพัฒนาตามกรอบแนวทางของโครงการ กระบวนการพิจารณาความต้องการและการจัดกลุ่มแบ่งระดับของการพัฒนาของโรงเรียนกลุ่มเป้าหมายเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับความหลากหลายและความซับซ้อนของบริบทการศึกษาในแต่ละพื้นที่

โครงการสะท้อนถึงเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนข้อที่ 4 เรื่องการศึกษาที่มีคุณภาพผ่านการจัดกิจกรรมและการอบรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต การนำแนวคิดและกระบวนการติดตามและประเมินเชิงพัฒนา (Developmental Evaluation: DE) มาใช้เป็นการสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้และการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้โรงเรียนต้นแบบและการเปิดชั้นเรียน Khon Kaen Open Class ครั้งที่ 1 เป็นการสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ที่เข้มแข็งและยั่งยืน
ในด้านเป้าหมายที่ 10 เรื่องการลดความเหลื่อมล้ำ โครงการได้ตอบสนองผ่านการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทุกคนเข้าถึงได้ (Universal Design) โดยครอบคลุมโรงเรียนการศึกษาขั้นพื้นฐานทุกขนาดและทุกสังกัด ตั้งแต่ระดับปฐมวัยไปจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย การไม่เลือกปฏิบัติและการเปิดโอกาสให้โรงเรียนทุกประเภทเข้าร่วมโครงการเป็นการสร้างความเป็นธรรมทางการศึกษาอย่างแท้จริง

กลุ่มผู้ได้รับประโยชน์จากโครงการมีความหลากหลายและครอบคลุม โดยแบ่งเป็นสองกลุ่มหลัก กลุ่มแรกคือโรงเรียนที่เคยร่วมโครงการต่างๆ กับ กสศ. ในพื้นที่ เช่น โครงการโรงเรียนพัฒนาตนเอง (TSQP) โครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น และโครงการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่ (ABE) กลุ่มนี้มีพื้นฐานประสบการณ์ในการพัฒนาแล้ว จึงสามารถเป็นโรงเรียนต้นแบบและผู้นำการเปลี่ยนแปลงได้ กลุ่มที่สองคือโรงเรียนทุกสังกัดที่เป็นเครือข่ายในพื้นที่ ซึ่งจะได้รับการพัฒนาขีดความสามารถและการสนับสนุนให้ก้าวไปสู่การเป็นโรงเรียนพัฒนาตนเองที่แท้จริง
ผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมของโครงการมีความกว้างไกลและลึกซึ้ง การเกิดขึ้นของแนวทางหรือนวัตกรรมของการพัฒนาคุณภาพโรงเรียนและระบบนิเวศการเรียนรู้ในจังหวัดผ่านการศึกษาต้นทุน การวิเคราะห์สภาพปัญหา และการจัดลำดับความสำคัญด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน เป็นการสร้างความเป็นเจ้าของร่วมกันที่แท้จริง
การบูรณาการความร่วมมือและกลไกการทำงานที่สร้างแนวคิดความเป็นเจ้าของร่วมกันได้นำไปสู่การระดมทรัพยากรเพื่อการพัฒนาคุณภาพโรงเรียนและการพัฒนาเด็กและเยาวชนในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้เครื่องมือและแนวทางของการประเมินผลเชิงพัฒนา (DE) เป็นเครื่องมือในการออกแบบแผนการทำงานและบริหารจัดการแนวใหม่ยังช่วยให้เกิดการประกันคุณภาพภายในโรงเรียนที่เข้มแข็งและยั่งยืน

ความร่วมมือของสถาบันอุดมศึกษาในท้องถิ่นและภูมิภาคในการเป็นหน่วยสนับสนุนด้านเทคนิควิชาการเป็นการสร้างสะพานเชื่อมระหว่างความรู้ทางวิชาการกับการปฏิบัติในพื้นที่ การเติมเต็มศักยภาพทางวิชาการให้แก่ผู้บริหารเขตพื้นที่ ผู้อำนวยการโรงเรียน ครู และศึกษานิเทศก์เป็นการลงทุนในทรัพยากรมนุษย์ที่จะส่งผลในระยะยาว การออกแบบและวางแนวทางการพัฒนาระบบและกลไกการดูแลช่วยเหลือและพัฒนานักเรียนเพื่อลดอัตราการหลุดออกจากระบบการศึกษาเป็นการตอบสนองต่อปัญหาเร่งด่วนของการศึกษาไทย การสร้างแนวทางการส่งต่อและดูแลช่วยเหลือนักเรียนกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนที่หลุดออกจากระบบไปแล้วยังเป็นการสร้างเครือข่ายความปลอดภัยทางการศึกษาที่ครอบคลุม
ผลสำเร็จของโครงการสะท้อนได้จากตัวเลขที่น่าประทับใจ โดยมีผู้อำนวยการโรงเรียนการศึกษาขั้นพื้นฐานขนาดเล็กและขนาดกลางจากทุกสังกัดจำนวน 104 คนเข้าร่วมโครงการ ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมที่กว้างขวางและการยอมรับในแนวคิดของโครงการ การมีองค์กรภาคีเครือข่ายจาก 4 ภาคส่วนหลัก ได้แก่ ชุมชน สถาบันเครือข่าย เขตพื้นที่การศึกษา และโรงเรียน เป็นการสร้างระบบนิเวศการทำงานที่เข้มแข็งและครอบคลุม
โครงการขับเคลื่อนขบวนการโรงเรียนพัฒนาตนเองเชิงพื้นที่ (TSQM-A) จึงเป็นมากกว่าโครงการพัฒนาการศึกษา แต่เป็นการปฏิวัติเงียบที่เปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์ของการทำงานด้านการศึกษาจากการทำงานแบบแยกส่วนสู่การทำงานแบบบูรณาการ จากการพึ่งพาจากภายนอกสู่การพึ่งพาตนเองและชุมชน และจากการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าสู่การสร้างระบบที่ยั่งยืน ด้วยการใช้เวลาเก้าเดือนในการวางรากฐานที่มั่นคง โครงการนี้ได้สร้างต้นแบบของการปฏิรูปการศึกษาที่เกิดจากพื้นที่และเป็นของพื้นที่อย่างแท้จริง ซึ่งจะเป็นแรงบันดาลใจและต้นแบบสำหรับการขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศในอนาคต
ลิงก์ข่าว, เพจ Facebook หรือสื่ออื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง https://irdtpforasean.kku.ac.th/2024/7june25.html https://www.facebook.com/share/14EpvQbVKgA/
ผู้ให้ข้อมูลติดต่อกลับ นางสาวอภิญญา นิ่มมงคล เบอร์ภายใน 50150 เบอร์โทรศัพท์ 0807537137 Line:goithamnao สังกัดสถาบันวิจัยและพัฒนาวิชาชีพครูสำหรับอาเซียน