การเสวนาข้ามภาคส่วนเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน Cross sectoral dialogue about SDGs

มหาวิทยาลัยขอนแก่น ไม่ได้จำกัดบทบาทอยู่แค่การเป็นสถาบันวิชาการ แต่ได้ก้าวขึ้นมาเป็น “ผู้ริเริ่มและอำนวยความสะดวก” (Initiator & Facilitator) ในการสร้างบทสนทนาระหว่างภาคส่วนต่างๆ ได้แก่

ภาครัฐ: หน่วยงานวางนโยบาย (เช่น สภาพัฒน์ฯ), กระทรวงต่างๆ, และหน่วยงานระดับจังหวัด

ภาคเอกชน: บริษัทขนาดใหญ่, หอการค้า, สภาอุตสาหกรรม, และ Startups

ภาคประชาสังคม: องค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs), กลุ่มเกษตรกร, และเครือข่ายชุมชน

ภาควิชาการ: นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยต่างๆ

บทบาทสำคัญ:คือการนำ “ข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์” (Data & Evidence-based Insights) จากงานวิจัยมาใช้เป็นแกนกลางในการเสวนา เพื่อให้การพูดคุยมีทิศทาง ตั้งอยู่บนความเป็นจริง และนำไปสู่ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่ปฏิบัติได้จริง

ผลงานเด่นจากการจัดและเข้าร่วมเวทีเสวนาข้ามภาคส่วน การเป็นเจ้าภาพจัดเวทีเสวนาเอง (KKU as an Organizer)

จัดเวทีด้านเศรษฐกิจชีวภาพ (Bioeconomy Forum): มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดเวทีเสวนาใหญ่ประจำปี เชิญรัฐมนตรี, ปลัดกระทรวง, CEO บริษัทเกษตร-อาหารชั้นนำ, ธนาคาร, และตัวแทนเกษตรกร มาหารือร่วมกันถึงทิศทางการขับเคลื่อนระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (NeEC-Bioeconomy)

ผลลัพธ์: เกิดการรับรู้และผลักดันนโยบายในระดับประเทศ, สร้างเครือข่ายความร่วมมือที่นำไปสู่การลงทุนจริง, และทำให้ภาคอีสานถูกมองในฐานะ “ศูนย์กลางเศรษฐกิจชีวภาพ” ของไทยเวทีการแก้ปัญหาความยากจน (Poverty Eradication Dialogue)

จัดเวทีนำเสนอมหาวิทยาลัยขอนแก่น โมเดล” และผลสำเร็จในการแก้จน โดยเชิญผู้แทนจากกระทรวงมหาดไทย, สภาพัฒน์ฯ, และผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ เข้าร่วมรับฟังและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ทำให้ “มหาวิทยาลัยขอนแก่น โมเดล” ได้รับการยอมรับและถูกนำไปขยายผลในระดับนโยบาย, เกิดการแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด (Best Practices) ระหว่างจังหวัดในการใช้ข้อมูลเพื่อแก้ปัญหาความยากจนเวทีด้านสาธารณสุขและนวัตกรรมการแพทย์

จัดประชุมวิชาการระดับชาติและนานาชาติ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีการเชิญผู้กำหนดนโยบาย (สปสช., กรมควบคุมโรค), ผู้บริหารโรงพยาบาล, และบริษัทเทคโนโลยีการแพทย์ มาร่วมเสวนาในหัวข้อต่างๆ เช่น การรับมือโรคอุบัติใหม่, การแพทย์แม่นยำ, และการใช้ Digital Health  ทำให้เกิด สร้าง ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการพัฒนาระบบสุขภาพของประเทศ และเกิดความร่วมมือในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ใหม่ๆ

การเข้าร่วมเป็นผู้ให้ข้อมูลและผู้ขับเคลื่อนในเวทีอื่น (KKU as a Key Contributor) คณาจารย์และผู้บริหารของ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้รับเชิญให้เข้าร่วมเวทีเสวนาระดับชาติในฐานะผู้เชี่ยวชาญและผู้มีประสบการณ์ตรงอยู่เสมอ  เช่น  เวทีการประชุมระดับชาติของสภาพัฒน์ฯ และหน่วยงานภาครัฐ  มหาวิทยาลัยขอนแก่น ส่งผู้แทนเข้าร่วมให้ความเห็นและนำเสนอข้อมูลเชิงลึกในเวทีการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ชาติ, แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, และเวทีรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับกฎหมายหรือนโยบายใหม่ๆ ทำให้ข้อมูลจากงานวิจัยถูกนำไปประกอบการตัดสินใจเชิงนโยบายระดับชาติได้จริง 

เวทีเสวนาของภาคเอกชน (หอการค้าไทย, สภาอุตสาหกรรม) นอกจากนี้ยังได้เข้าร่วมเสวนาในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาทักษะแรงงานแห่งอนาคต, การเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัล, และการพัฒนาที่ยั่งยืนในภาคอุตสาหกรรม (เช่น BCG Model)

ผลกระทบ: สร้างความเชื่อมโยงระหว่างภาคการศึกษาและภาคอุตสาหกรรม ช่วยให้การผลิตบัณฑิตและการทำวิจัยตอบโจทย์ความต้องการของตลาดมากขึ้น  เวทีด้านสิ่งแวดล้อม (PM2.5 และ Climate Change):

สรุปในภาพรวม   ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้ใช้ “เวทีเสวนาข้ามภาคส่วน” เป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ที่ทรงพลังในการขับเคลื่อนวาระ SDGs โดยเปลี่ยนจากบทบาทผู้ให้ความรู้เชิงรับ มาเป็น “ผู้สร้างบทสนทนาเชิงรุก” ที่สามารถหลอมรวมมุมมองที่แตกต่างจากภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม ให้กลายเป็นฉันทามติและแนวปฏิบัติร่วมกันเพื่อการพัฒนาประเทศที่ยั่งยืน

ในปี 2568 มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้เข้าร่วมการเสวนาภาคส่วนต่างๆทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน  และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรหลายครั้งที่ครอบคลุมการพัฒนาที่ยั่งยืน ตัวอย่างเช่น

การเสวนาระหว่างภาคส่วนเกี่ยวกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)

มหาวิทยาลัยขอนแก่นเข้าร่วมประชุมวิชาการระดับชาติด้านคนพิการ ครั้งที่ 17

วันที่ 22 กันยายน 2568 มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำโดย ศ.ดร.ธิดารัตน์ บุญมาศ รองอธิการบดีฝ่ายวิสาหกิจและสังคมยั่งยืน เข้าร่วมงานสัมมนาวิชาการระดับชาติด้านคนพิการ ครั้งที่ 17 “แนวปฏิบัติที่ดีและนวัตกรรมในการสร้างโอกาสทางการศึกษาและอาชีพสำหรับคนพิการ” The 17th National Conference on Persons with Disabilities (NCPD 2025) “Best Practices and Innovations in Creating Educational and Career Opportunities for Persons with Disabilities” มีผู้เข้าร่วมกว่า 700 คน ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

การพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเป็นภารกิจที่สอดคล้องโดยตรงกับ ยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น ประเด็นที่ 4 กลยุทธ์ที่ 3 ว่าด้วยการสนับสนุนและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนและสังคม อีกทั้งยังเชื่อมโยงกับ เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ที่มหาวิทยาลัยใช้เป็นกรอบการดำเนินงาน ได้แก่ การศึกษา (SDG 4) ความเสมอภาคทางเพศ (SDG 5) การจ้างงานที่มีคุณค่า (SDG 8) การลดความเหลื่อมล้ำ (SDG 10) และเมืองและชุมชนที่เป็นมิตรต่อผู้พิการ (SDG 11) ซึ่งล้วนสะท้อนเจตนารมณ์ของมหาวิทยาลัยขอนแก่นในการขับเคลื่อนสังคมให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ภายใน มีการสัมมนาหัวข้อ “เรียน-ทำงาน-ใช้ชีวิต: โมเดลจริงเพื่อคุณภาพชีวิตคนพิการแบบยั่งยืน”, การนำเสนอ Best Practices & Innovations ในการสร้างโอกาสทางการศึกษาและอาชีพสำหรับคนพิการ 3 โซน ZONE A – ด้านการศึกษา ZONE B – ด้านการมีงานทำ ZONE C – เครือข่าย/Stakeholder และมีพิธีมอบธงเจ้าภาพการจัดสัมมนาวิชาการ ครั้งที่ 18 ประจำปี 2569 ให้กับ รองศาสตราจารย์ ดร.สยาม เจริญเสียง รองอธิการบดีอาวุโสฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมเวที “Thailand Zero Food Waste Forum 2025” ขับเคลื่อนแนวทางลดขยะอาหาร สร้างมูลค่าเพิ่มสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างยั่งยืน

วันที่ 8 ตุลาคม 2568 รองศาสตราจารย์ ดร.จันทิมา ภูงามเงิน รองคณบดีฝ่ายยุทธศาสตร์และสื่อสารองค์กร คณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปฏิมากร คล้ายประสิทธิ์ และนักศึกษาคณะเทคโนโลยี เข้าร่วมงานเสวนา “Thailand Zero Food Waste Forum 2025: รวมพลัง ลดทิ้ง สร้างค่า เปลี่ยนความท้าทายเป็นโอกาส”  ซึ่งจัดโดย บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือในการลดปริมาณ “ขยะอาหาร” ของประเทศ พร้อมต่อยอดสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มและพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างยั่งยืน ที่ออดิทอเรียม ชั้น 6 อาคารทรู ดิจิทัล พาร์ค (East) กรุงเทพมหานคร

ภายในงานได้รับเกียรติจากผู้บริหารภาครัฐ เอกชน และภาคการศึกษา เข้าร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองและแนวทางขับเคลื่อนประเทศสู่เป้าหมาย “Zero Food Waste” อย่างเป็นรูปธรรม โดยมี คุณศิริพร เดชสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) และ คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวเปิดเวทีและร่วมปาฐกถาพิเศษเรื่อง “From Global Challenges to Local Solutions: ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ Zero Waste ด้วยพลังแห่งความร่วมมือ”

ในช่วงการเสวนา การนำเสนอ “แผนขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมาย Zero Food Waste” โดย คุณชาตรี อรรจนานันท์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการเสวนาหัวข้อ “ขยะอาหารสร้างมูลค่า สนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียน” ซึ่งมีผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายภาคส่วนร่วมแลกเปลี่ยนแนวคิด ได้แก่ ดร.ธนิต ชังถาวร ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (BEDO) รศ.ดร.จันทิมา ภูงามเงิน รองคณบดีฝ่ายยุทธศาสตร์และสื่อสารองค์กร คณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยขอนแก่น คุณเปรม ทรัพย์บุญเลิศมา ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมความยั่งยืนและองค์กรสัมพันธ์ คุณศิริพร เดชสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) คุณนุชกัญญา ลิ้มสุวัฒนา เกษตรกรผู้เลี้ยงจิ้งหรีด ศิวะภณ ฟาร์ม

การเข้าร่วมเวทีระดับประเทศในครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของคณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในการนำองค์ความรู้ทางวิชาการและงานวิจัยมาขับเคลื่อนการแก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการจัดการขยะอาหาร ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ งาน “Thailand Zero Food Waste Forum 2025” จึงเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา เพื่อร่วมกันเปลี่ยนขยะอาหารให้กลายเป็นโอกาส และสร้างสังคมไทยที่บริโภคอย่างรู้คุณค่าและยั่งยืนอย่างแท้จริง

มหาวิทยาลัยขอนแก่น จับมือสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย จัดสัมมนาการตลาดครั้งยิ่งใหญ่ของภาคอีสาน “Thailand Marketing Day On Tour 2025 @Khon Kaen” ยกระดับนักการตลาดไทยให้ก้าวทันเทรนด์ธุรกิจยุคใหม่

วันที่ 26 – 27 กันยายน 2568 มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี ร่วมกับ สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย จัดงานสัมมนาการตลาดระดับภูมิภาค “Thailand Marketing Day On Tour 2025 @Khon Kaen” หรือวันนักการตลาดสัญจร ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยมี คุณดวงพร วงศ์กวีสกุล ผู้อำนวยการบริหารสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.เพ็ญศรี เจริญวานิช รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและนวัตวณิชย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พงษ์สุทธิ พื้นแสน คณบดีคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมเป็นประธานเปิดงาน

การจัดงานในครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้ธีม “The Awakening Momentum: ปลุกพลังความคิด พิชิตความเปลี่ยนแปลง” ถ่ายทอดเทรนด์การตลาดและบทบาทของเทคโนโลยีที่ทุกธุรกิจต้องเตรียมพร้อมรับมือ พร้อมด้วยการบรรยายและเสวนาจากวิทยากรและผู้บริหารแถวหน้าของประเทศ โดยผู้เข้าร่วมงานจะได้รับทั้งองค์ความรู้ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้จริง โอกาสสร้างเครือข่ายทางธุรกิจระดับภูมิภาค และของที่ระลึกจากผู้สนับสนุนภายในงาน

โดยภายในงานมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายประกอบไปด้วย วันที่ 26 กันยายน 2568 เป็นการจัดกิจกรรม “โครงการ Train the Trainers สัญจร- The Class of Change” สำหรับคณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา เพื่อเพิ่มทักษะสำคัญในการสอนยุคใหม่และ “โครงการ J-MAT สู่เส้นทางการตลาดสัญจร-Shortcut to Success?” สำหรับนิสิต นักศึกษา เพื่อเป็นการถ่ายทอดแรงบันดาลใจและประสบการณ์จากผู้ประกอบการและนักการตลาดมืออาชีพ ส่วนวันที่ 27 กันยายน 2568 เป็นโครงการ “วันนักการตลาดสัญจร- The Awakening Momentum” เวทีสัมมนาและเสวนาพิเศษโดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิและผู้บริหารองค์กรชั้นนำกว่า 15 ท่าน ที่มาถ่ายทอดองค์ความรู้ครอบคลุมทั้งกลยุทธ์การตลาด เทคโนโลยี และ Insight ของผู้บริโภค

มหาวิทยาลัยขอนแก่นจัดประชุมนำเสนอผลการดำเนินงานการยกระดับคลัสเตอร์ถั่วเหลืองภาคอีสาน สู่ความมั่นคงทางอาหารและการพัฒนาที่ยั่งยืน

วันที่ 8 กันยายน 2568 มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกับหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) จัดประชุมสรุปผลการดำเนินงานโครงการ“การยกระดับคลัสเตอร์พืชเศรษฐกิจในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (Ne-EC)” โดยใช้องค์ความรู้ด้านการพัฒนาเชิงพื้นที่เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อน  ผู้เข้าร่วมสัมมนาประกอบด้วยผู้แทนจากภาครัฐ ภาคเอกชน และเกษตรกร   โดยในงานนี้ได้รับเกียรติจาก นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดการประชุม และ รศ.ดร.ดรุณี โชติษฐยางกูร คณบดีคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมกว่า 200 คน จากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และเกษตรกรทั่วภาคอีสาน โดยมี ผศ.มัลลิกา ศรีสุธรรม สาขาวิชาปฐพีศาสตร์และสิ่งแวดล้อม คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หัวหน้าโครงการ เป็นผู้กล่าวรายงานสรุปผลโครงการ พร้อมด้วยการบรรยายพิเศษจาก ผศ.ดร.จุฑาทิพย์ เฉลิมพล ผู้แทนจาก บพท. เกี่ยวกับนโยบายและแนวทางการสนับสนุนทุน

ปัจจุบัน ประเทศไทยนำเข้าถั่วเหลืองจากต่างประเทศ 99% นับเป็นการนำเข้าที่สูงมาก การประชุมสรุปผลโครงการยกระดับคลัสเตอร์พืชเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (Ne-EC) ในครั้งนี้จึงถือเป็นก้าวสำคัญของความร่วมมือระหว่าง มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกับ หน่วยบริหารและจัดการทุนระดับพื้นที่ (บพท.) ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนทุน และภาคีเครือข่ายภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชนในการขับเคลื่อนคลัสเตอร์ถั่วเหลืองของไทยตลอดห่วงโซ่อุปทาน 

นอกจากนี้  ผู้เข้าร่วมยังได้รับฟังการบรรยายพิเศษหัวข้อ Soybean production and recent studies in Japan โดย Prof.Dr.Koki Homma (Tohoku University, Japan) และหัวข้อ Climate change impact and adaptation measure in Northeast Thailand –Mix cropping, insurance, shallow groundwater use– โดย Prof.Dr.Koshi Yoshida (The University of Tokyo)

การดำเนินงานยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยตรง ทั้งในด้านการสร้างความมั่นคงทางอาหารผ่านการลดการพึ่งพาการนำเข้าและส่งเสริมระบบการผลิตที่ยั่งยืน อันสอดคล้องกับ SDG 2 ขจัดความหิวโหย การเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจและรายได้ที่มั่นคงให้แก่เกษตรกรท้องถิ่น ซึ่งเชื่อมโยงกับ SDG 8 การจ้างงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจตลอดจนการพัฒนานวัตกรรมและมาตรการปรับตัวทางการเกษตรเพื่อรองรับความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของ SDG 13 การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

มหาวิทยาลัยขอนแก่นผนึกกำลังวิชาการระดับประเทศ เสวนาข้ามภาคส่วนระดมสมองแก้ภัย Global Boiling ต่อยอดความรู้สู่การปฏิบัติจริงกับโลกเดือดแผลงฤทธิ์ ภัยพิบัติถี่-เข้ม

เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา  มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ ร่วมกับ สำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยขอนแก่นจึงจัดงานเสวนา “การจัดการภัยพิบัติในสภาวะโลกเดือด” เพื่อสร้างความตระหนักรู้ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และแสวงหาแนวทางรับมือผลกระทบจากภาวะโลกเดือดที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับเกียรติจาก นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวเปิดงาน  โดยมีรองศาสตราจารย์ ดร.รัชพล สันติวรากร คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวรายงานโครงการฯ ทั้งนี้ได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศทั้งด้านการเตือนภัย การบริหารจัดการนํ้า และการดูแลระบบนิเวศ ร่วมวงเสวนา มีนักศึกษา บุคลากร ประชาชน พร้อมสื่อมวลชนร่วมงานจำนวนมาก  ณ อาคาร 50 ปี วิศวกรรมศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น  

นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวถึงความสำคัญของการเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติว่า “ในปัจจุบันสถานการณ์โลกของเรากำลังเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญอย่างยิ่ง ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลให้เกิดภัยพิบัติที่รุนแรงและถี่ขึ้นทั่วโลก จังหวัดขอนแก่นให้ความสำคัญกับการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และสถาบันการศึกษา เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับสังคมไทยในการเผชิญกับความท้าทายจากสภาวะโลกเดือดได้ดียิ่งขึ้น”

รองศาสตราจารย์ ดร.รัชพล สันติวรากร คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น  เผยว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันที่โลกกำลังเผชิญกับภาวะโลกเดือดอย่างรุนแรง คณะวิศวกรรมศาสตร์ร่วมกับสำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาภัยพิบัติที่ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อทุกภาคส่วน ทั้งภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม ตลอดจนวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน จึงได้จัดการเสวนาสำคัญในหัวข้อ การจัดการภัยพิบัติในสภาวะโลกเดือดขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ภัยพิบัติและผลกระทบจากภาวะโลกเดือด อีกทั้งยังเป็นเวทีแลกเปลี่ยนมุมมองและแนวทางการบริหารจัดการภัยพิบัติจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ นอกจากนี้ ยังมุ่งส่งเสริมแนวทางการจัดการแหล่งน้ำขนาดเล็กที่เหมาะสมสำหรับชุมชน เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งในการรับมือกับภัยพิบัติในระดับท้องถิ่น

การจัดงานเสวนาครั้งนี้นับเป็นครั้งยิ่งใหญ่ซึ่งได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิระดับประเทศที่มีความเชี่ยวชาญในหลากหลายด้านที่เกี่ยวข้องกับการจัดการภัยพิบัติได้ให้เกียรติมาร่วมงาน ประกอบด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านระบบเตือนภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พร้อมด้วย นายพิทักษ์ ยุวานนท์ อดีตผู้อำนวยการ โครงการชลประทานนครปฐม นายโบว์แดง ทาแก้ว อดีตผู้อำนวยการ โครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา ดร.เพิ่มศักดิ์ คิดหมาย อดีตผู้ทรงคุณวุฒิ และที่ปรึกษากรมชลประทาน นายเจนศักดิ์ ลิมปิติ ที่ปรึกษา อนุกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน ด้านการจัดการภัยพิบัติระดับชาติ รองศาสตราจารย์ ดร.กัมปนาท ภักดีกุล อาจารย์ประจำคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล  นายภัทรพล ณ หนองคาย ที่ปรึกษาด้านงานซ่อม-สร้างแหล่งนํ้าและโครงสร้างขนาดเล็ก อาจารย์สุภัทรดิศ ราชธา  ที่ปรึกษาอนุกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน ด้านการจัดการภัยพิบัติระดับชาติโดยมี รองศาสตราจารย์  ดร.กัลยกร ขวัญมา อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ และ รองศาสตราจารย์ ดร.ศุภสิทธิ์ คนใหญ่ อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นผู้ดำเนินรายการในเสวนา

โดยทุกท่านได้ร่วมกันถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับระบบเตือนภัย การบริหารจัดการน้ำ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และ Carbon Credit ซึ่งจะนำไปสู่การหาแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างรอบด้านและมีประสิทธิภาพ   บรรยากาศการเสวนาเต็มไปด้วยการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างกว้างขวางและลึกซึ้ง ผู้เข้าร่วมงานต่างแสดงความกระตือรือร้นในการซักถามและร่วมแบ่งปันประสบการณ์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความตื่นตัวและความห่วงใยต่อประเด็นปัญหาสภาวะโลกเดือดที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น

SDGs17
Scroll to Top