ชาข้าวเมล็ดฝ้าย Freeze-Dry: ยกระดับมาตรฐาน–บุกตลาดส่งออก

ชุมชนเกษตรอินทรีย์ที่อุดมสมบูรณ์ของตำบลหนองห้าง อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ วิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์นาภูได้ค้นพบทรัพยากรล้ำค่าที่ซ่อนอยู่ในท้องถิ่น นั่นคือข้าวเมล็ดฝ้ายที่มีปริมาณแอนโทไซยานินสูง ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณค่าทางโภชนาการอย่างยิ่ง แต่ความท้าทายสำคัญคือการแปรรูปให้คงคุณค่าทางโภชนาการ ยืดอายุการเก็บรักษา และได้มาตรฐานเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการส่งออกไปยังตลาดสำคัญ เช่น ไต้หวัน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป

มหาวิทยาลัยขอนแก่นร่วมกับอุทยานวิทยาศาสตร์ จึงได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์นาภูในการพัฒนานวัตกรรม “ชาข้าวเมล็ดฝ้าย Freeze-Dry” เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นสู่มาตรฐานสากลและเปิดโอกาสการส่งออก โดยใช้เทคโนโลยี Freeze-Dry ที่สามารถคงสารสำคัญและยืดอายุการเก็บรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โครงการนี้สะท้อนถึงการตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างครอบคลุม ในด้านการขจัดความหิวโหย โครงการได้ให้ความรู้และจัดอบรมด้านความมั่นคงทางอาหารแก่ชุมชน ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและมีมาตรฐาน สำหรับการศึกษาที่มีคุณภาพ โครงการได้จัดกิจกรรมและการอบรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตด้านเทคโนโลยี Freeze-Dry และมาตรฐานการส่งออก ส่วนการพัฒนาอุตสาหกรรมและนวัตกรรม โครงการได้มุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาสังคมด้านการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์เกษตรและการสร้างรายได้ให้ชุมชน กระบวนการดำเนินงานได้รับการออกแบบอย่างเป็นระบบเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการขยายสเกลจากห้องปฏิบัติการสู่ระดับอุตสาหกรรม เริ่มต้นด้วยการทดลองขยายสเกลการผลิตและกำหนดสภาวะที่เหมาะสมเพื่อให้ได้คุณภาพเทียบเท่ากับต้นแบบ ต่อด้วยการยื่นเอกสารขอขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และจัดทำแนวทางขอมาตรฐานส่งออก และปิดท้ายด้วยการถ่ายทอดเทคโนโลยีและประเมินผลการถ่ายทอดในชุมชน

วัตถุประสงค์หลักของโครงการคือการขยายกำลังการผลิตจากระดับห้องปฏิบัติการสู่ระดับอุตสาหกรรมพร้อมกำหนดสภาวะมาตรฐาน การยื่นขอขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ชาข้าวเมล็ดฝ้ายกับอย. และการถ่ายทอดแนวทางขอมาตรฐานต่างประเทศให้ผู้ประกอบการใช้ได้จริง

ตัวชี้วัดความสำเร็จที่กำหนดไว้แสดงให้เห็นถึงความเป็นรูปธรรมของโครงการ การทราบสภาวะการผลิตระดับอุตสาหกรรมพร้อมกำลังการผลิตมาตรฐาน การได้รับเลขทะเบียนจาก อย. การมีเอกสารและขั้นตอนขอมาตรฐานส่งออกที่พร้อมใช้งาน และการผลิตชาข้าวเมล็ดฝ้าย 1,000 กล่องเป็นผลผลิตเชิงปริมาณที่ชัดเจน

ผลลัพธ์ที่ได้รับจากโครงการมีความครบถ้วนและเป็นรูปธรรม ได้แก่ สูตรและสภาวะมาตรฐานการผลิตระดับอุตสาหกรรม เอกสารและเลขทะเบียนจาก อย. แนวทางและคู่มือขอมาตรฐานส่งออกพร้อมการผลิตจริง 1,000 กล่อง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการเข้าสู่ตลาดเชิงพาณิชย์

ความสำเร็จที่โดดเด่นคือชุมชนสามารถจำหน่ายและส่งออกได้จริงตั้งแต่ล็อตมาตรฐานแรก ชุมชนมีทักษะด้านมาตรฐาน การผลิต และการติดฉลากโภชนาการพร้อมเอกสารกำกับสินค้า ซึ่งเป็นความสามารถที่สำคัญสำหรับการแข่งขันในตลาดสากล

ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นมีความหมายอย่างยิ่งต่อชุมชน การสร้างรายได้จากการจำหน่ายและส่งออกอย่างน้อย 1,000 กล่องในรอบแรก พร้อมการกระตุ้นให้เกิดการปลูกวัตถุดิบเพิ่มขึ้นในพื้นที่ ซึ่งจะสร้างวงจรเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและขยายผลไปสู่เกษตรกรในพื้นที่กว้างขึ้น

ในมิติสังคม โครงการได้สร้างงานและทักษะมาตรฐานอาหารรวมถึงเอกสารส่งออกในชุมชน ส่งผลให้เกิดการยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการท้องถิ่น การมีความรู้และทักษะในการจัดการมาตรฐานจะช่วยให้ชุมชนสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์อื่นๆ ต่อไปได้ด้วยตนเอง

สำหรับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โครงการได้หนุนแนวคิด BCG Economy ผ่านการส่งเสริมการปลูกพืชหมุนเวียนและการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นอย่างยั่งยืน เทคโนโลยี Freeze-Dry ช่วยลดการสูญเสียวัตถุดิบด้วยการทำให้แห้งที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การพัฒนาชาข้าวเมล็ดฝ้าย Freeze-Dry ยังเป็นการอนุรักษ์และส่งเสริมพันธุ์ข้าวพื้นเมืองที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง การมีตลาดรองรับที่แน่นอนจะกระตุ้นให้เกษตรกรหันมาปลูกข้าวเมล็ดฝ้ายมากขึ้น ซึ่งจะช่วยอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและรักษาภูมิปัญญาการเกษตรท้องถิ่น เทคโนโลยี Freeze-Dry ที่ใช้ในโครงการนี้เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถคงคุณค่าทางโภชนาการของแอนโทไซยานินได้ดีกว่าวิธีการแปรรูปแบบดั้งเดิม ทำให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพสูงและสามารถแข่งขันในตลาดพรีเมียมได้

โครงการ “ชาข้าวเมล็ดฝ้าย Freeze-Dry” จึงเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการยกระดับผลิตภัณฑ์เกษตรท้องถิ่นสู่มาตรฐานสากล ผ่านการผสานเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ากับทรัพยากรท้องถิ่นที่มีคุณค่า นวัตกรรมนี้ไม่เพียงแต่สร้างรายได้และโอกาสใหม่ให้กับชุมชน แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและการพัฒนาอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งเป็นก้าวสำคัญในการนำผลิตภัณฑ์ไทยสู่เวทีโลกด้วยคุณภาพและมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับสากล

ลิงก์ข่าว, เพจ Facebook หรือสื่ออื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง https://youtu.be/oeb9SW-zhXw?si=vAuniO2Rk2QHhKhy

ผู้ให้ข้อมูลติดต่อกลับ นางสาวพรชวรัตน์ ฐานมั่น / Line id : kaew.p

SDGs9
Scroll to Top