โครงการยกระดับเศรษฐกิจด้วยวิจัยและนวัตกรรม: กรณีศึกษาตำบลเมืองเพีย อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น

ตำบลเมืองเพีย อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ได้กลายเป็นพื้นที่นำร่องสำคัญในการพิสูจน์ว่าการพัฒนาที่แท้จริงต้องเกิดจากการผสานองค์ความรู้ทางวิชาการเข้ากับภูมิปัญญาท้องถิ่น คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ริเริ่มโครงการยกระดับเศรษฐกิจด้วยวิจัยและนวัตกรรม โดยมุ่งสร้าง “เครื่องยนต์ใหม่ทางเศรษฐกิจ” ที่จะขับเคลื่อนชุมชนให้เดินหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน ผ่านความร่วมมืออันแข็งแกร่งกับภาคีเครือข่ายที่หลากหลาย ทั้งองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองเพีย สำนักงานเกษตรอำเภอบ้านไผ่ สำนักงานประมงจังหวัดขอนแก่น ศูนย์วิจัยข้าวขอนแก่น ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวขอนแก่น โครงการศรีแสงดาวหมู่บ้านนาหยอด กลุ่มวิสาหกิจชุมชนตำบลเมืองเพีย และบริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)

โครงการที่ดำเนินการระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน พ.ศ. 2568 นี้ สะท้อนถึงการตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนหลายมิติ ทั้งการขจัดความยากจน การขจัดความหิวโหย การส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี การสร้างงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน รวมถึงการสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่ครอบคลุมและเชื่อมโยงปัญหาต่างๆ ของชุมชนเข้าด้วยกันอย่างเป็นองค์รวม

จุดเริ่มต้นของโครงการคือการสร้างฐานข้อมูลเชิงประจักษ์ที่แข็งแกร่ง โดยคณะทำงานได้ดำเนินการเก็บข้อมูลชุมชนและสัมภาษณ์ครัวเรือนจำนวนสามร้อยสี่สิบสองครัวเรือนจากสิบสี่หมู่บ้านทั่วตำบล พร้อมทั้งวิเคราะห์เชิงลึกของกลุ่มอาชีพและองค์กรชุมชน เพื่อออกแบบแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากด้วยองค์ความรู้ วิจัย และนวัตกรรมอย่างเป็นระบบ การเก็บข้อมูลในรอบสามเดือนแรกนี้ไม่ได้เป็นเพียงการรวบรวมตัวเลข แต่เป็นการทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงศักยภาพ ความต้องการ และโอกาสในการพัฒนาของชุมชนอย่างแท้จริง

ผลการศึกษาเผยให้เห็นภาพของตำบลเมืองเพียที่มีทั้งศักยภาพและความท้าทาย พื้นที่แห่งนี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลาย โดยเฉพาะพื้นที่การเกษตรขนาดใหญ่และแหล่งน้ำสำคัญอย่างแก่งละว้า ซึ่งมีศักยภาพทั้งด้านการประมงพื้นบ้านและการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ โครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณูปโภค การคมนาคม และบริการสาธารณสุขอยู่ในระดับพร้อมใช้งาน อย่างไรก็ตาม โครงสร้างเศรษฐกิจของตำบลยังพึ่งพาเกษตรกรรมดั้งเดิมเป็นหลัก ซึ่งมีความผันผวนสูงและขาดการยกระดับสู่การผลิตที่มีมูลค่าเพิ่ม

ภาพรวมเศรษฐกิจครัวเรือนที่ได้จากการสำรวจสะท้อนถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการพัฒนา ลักษณะประชากรกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ โดยหัวหน้าครัวเรือนส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงวัยเกษียณ รายได้เฉลี่ยของครัวเรือนอยู่ในระดับต่ำ โดยกว่าครึ่งหนึ่งมีรายได้ไม่เกินหกหมื่นบาทต่อปี และที่น่าเป็นห่วงคือมีหนี้สินครัวเรือนสูงถึงร้อยละเจ็ดสิบสาม รายได้หลักยังคงมาจากการทำนา การปลูกพืช การเลี้ยงปศุสัตว์ และการประมงพื้นบ้าน ซึ่งล้วนอิงกับสภาพภูมิอากาศและตลาดที่ผันผวน แม้ว่าบางกิจกรรมอย่างการทำนา การประมง และการปลูกพริกงวงช้างจะสามารถสร้างกำไรได้ดี แต่ก็ยังมีความแปรปรวนสูง นอกจากนี้ ภาระค่าใช้จ่ายครัวเรือนด้านต่างๆ เช่น ที่อยู่อาศัย ยานพาหนะ และสุขภาพ ยังกระทบต่อความสามารถในการออมและลงทุนอย่างต่อเนื่อง

ความหลากหลายของวิสาหกิจชุมชนในตำบลเมืองเพียเป็นจุดเด่นที่สำคัญ ตั้งแต่กลุ่มแปลงใหญ่ข้าว กลุ่มประมง กลุ่มทอผ้าไหม กลุ่มเลี้ยงกระบือ กลุ่มปลูกพริกงวงช้าง ไปจนถึงกลุ่มผู้เลี้ยงปลาในบ่อที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง โดยเฉพาะกลุ่มปลานิลแปลงใหญ่และกลุ่มปลาส้ม OTOP ที่สร้างรายได้อย่างเป็นรูปธรรม อย่างไรก็ตาม กลุ่มเหล่านี้ยังประสบปัญหาร่วมกันหลายประการ ได้แก่ ความขาดแคลนเงินทุน แรงงาน เครื่องมือและเทคโนโลยี รวมถึงการเข้าถึงตลาด นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มอาชีพบางส่วนยังไม่ได้รับการจัดตั้งอย่างเป็นทางการ เช่น กลุ่มรับจ้างเฉพาะทางและกลุ่มปูปาร์เก้บ้านดู่ใหญ่ ซึ่งมีศักยภาพในการขยายตัวหากได้รับการสนับสนุนอย่างเหมาะสม

จากการวิเคราะห์อย่างรอบด้าน โครงการได้จำแนกแนวทางการพัฒนาเชิงยุทธศาสตร์ออกเป็นสามกลุ่มหลักที่เชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ กลุ่มแรกคือกลุ่มเกษตรมูลค่าสูงและการแปรรูป ซึ่งมุ่งยกระดับภาคเกษตรที่เกี่ยวข้องกับคนส่วนใหญ่ให้มีผลผลิตที่สูงขึ้นและสามารถแปรรูปเป็นสินค้าเกษตรพร้อมจำหน่าย เช่น การเพิ่มผลผลิตข้าวนาแปลงใหญ่ ปลาแปลงใหญ่ ปลาส้มไร้ก้าง ผลิตภัณฑ์แปรรูพริก และผลิตภัณฑ์จากกระบือ กลุ่มที่สองคือกลุ่มหัตถกรรมและผลิตภัณฑ์ชุมชน เช่น ผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าฝ้าย การทอเสื่อ และผลิตภัณฑ์ชุมชนอื่นๆ โดยเน้นการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ การออกแบบ การสร้างแบรนด์ และการเข้าถึงตลาดออนไลน์ และกลุ่มที่สามคือกลุ่มการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวัฒนธรรม โดยใช้ทรัพยากรแก่งละว้า วิถีประมงพื้นบ้าน และศิลปวัฒนธรรมในพื้นที่เป็นแกนหลักของการพัฒนา เช่น การจัดโฮมสเตย์ การท่องเที่ยวชมบัวแดง วิถีชีวิตชุมชนประมงบ้านชีกกค้อ และกิจกรรมเชิงวัฒนธรรม

ความเชื่อมโยงระหว่างทั้งสามกลุ่มนี้สร้างพลังการพัฒนาที่ทวีคูณ การแปรรูปผลิตภัณฑ์เกษตรสนับสนุนการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวสร้างตลาดให้ผลิตภัณฑ์ชุมชน และของเสียจากเกษตรสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศและโลกในปัจจุบัน การสร้างเศรษฐกิจใหม่ในตำบลเมืองเพียต้องอาศัยการบูรณาการองค์ความรู้จากภาควิชาการ การสนับสนุนจากรัฐ ทักษะของชุมชน และการเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มรายได้ ลดความเปราะบาง และเสริมสร้างความเข้มแข็งของกลุ่มอาชีพอย่างยั่งยืน การดำเนินงานครอบคลุมทั้งการพัฒนาโมเดลธุรกิจ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับการท่องเที่ยว การส่งเสริมทักษะใหม่ๆ และการสร้างเครือข่ายตลาดที่หลากหลาย

ในระยะต่อไป โครงการจะทำการวิเคราะห์ศักยภาพกลุ่มอาชีพต่างๆ ในเชิงลึกทางเศรษฐศาสตร์ แล้วคัดเลือกกลุ่มอาชีพหลักที่จะนำมาเป็นต้นแบบในการพัฒนากลไกการเพิ่มผลผลิตเพื่อเป็น “เครื่องยนต์ใหม่ทางเศรษฐกิจ” ร่วมกับชุมชน และทดลองดำเนินการในปีแรก หากประสบผลสำเร็จก็จะขยายไปในพื้นที่ทั้งตำบลในปีต่อๆ ไป พร้อมกับการขับเคลื่อนกลุ่มอาชีพรองไปพร้อมๆ กันตามลำดับ โดยตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจตำบลเมืองเพียให้สูงขึ้นกว่าปัจจุบันร้อยละสิบห้าในระยะเวลาห้าปี

โครงการนี้จึงเป็นมากกว่าการวิจัย แต่เป็นการสร้างความหวังและโอกาสใหม่ให้กับชุมชน เป็นการพิสูจน์ว่าการพัฒนาที่ยั่งยืนต้องเกิดจากการทำงานร่วมกันระหว่างภาควิชาการและชุมชน โดยอาศัยข้อมูลเชิงประจักษ์เป็นพื้นฐาน และมุ่งสู่การสร้างระบบเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง หลากหลาย และสามารถพึ่งพาตนเองได้ ตำบลเมืองเพียจึงไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่ศึกษา แต่คือต้นแบบของการพัฒนาที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับชุมชนอื่นๆ ทั่วประเทศ สะท้อนถึงพันธกิจของมหาวิทยาลัยขอนแก่นในการเป็นพลังขับเคลื่อนสังคมสู่ความเจริญรุ่งเรืองอย่างแท้จริง

ลิงก์ข่าว, เพจ Facebook หรือสื่ออื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง https://www.facebook.com/share/p/1BEnZaz2EF/

ผู้ให้ข้อมูลติดต่อกลับ ศาสตราจารย์ ดร.บรรจบ ศรีภา ศูนย์วิจัยโรคเขตร้อน สาขาวิชาเวชศาสตร์เขตร้อน คณะแพทยศาสตร์ มข. โทร. 093-5915252

Facebook: www.facebook.com/BSripa

Scroll to Top