KKUVolts เข้าร่วมการสัมมนาเครือข่ายหน่วยงานวิจัยกองทัพบก ประจำปี 2568 ณ โรงแรมเอเชีย ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี

ความมั่นคงของชาติไม่ได้หมายถึงเพียงการป้องกันภัยคุกคามทางทหารเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความมั่นคงด้านพลังงาน เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม การสร้างความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษา ภาคอุตสาหกรรม และกองทัพจึงกลายเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยยกระดับขีดความสามารถของประเทศในการรับมือกับความท้าทายแบบองค์รวม เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ถึง 2 กันยายน 2568 ณ โรงแรมเอเชีย ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ได้เกิดขึ้นซึ่งการสัมมนาเครือข่ายหน่วยงานวิจัยกองทัพบกประจำปี 2568 ซึ่งเป็นเวทีสำคัญในการเชื่อมโยงองค์ความรู้และนวัตกรรมเพื่อความมั่นคงแห่งชาติ

การสัมมนาครั้งสำคัญนี้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “กระบวนการดำเนินโครงการวิจัยและพัฒนาการทางทหารภายใต้ระบบ ววน.” โดยสำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร กองทัพบก โรงงานแบตเตอรี่และพลังงานยุคใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ kkUVolts ได้ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญระดับสูงเข้าร่วมการแลกเปลี่ยนความรู้ในครั้งนี้ โดยมีรองศาสตราจารย์ ดร.นงลักษณ์ มีทอง ผู้อำนวยการโรงงานแบตเตอรี่และพลังงานยุคใหม่ และ ดร.นรินทร วิริยะ หัวหน้างานพัฒนากระบวนการผลิต เป็นผู้นำทีมในการสร้างสะพานเชื่อมระหว่างเทคโนโลยีพลังงานสะอาดกับความต้องการด้านความมั่นคงของประเทศ

การเข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายหลักในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และสร้างแนวทางความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมพลังงานและระบบกักเก็บพลังงาน เพื่อสนับสนุนการยกระดับขีดความสามารถด้านความมั่นคงของประเทศ ทีม kkUVolts ได้นำเสนอศักยภาพและความก้าวหน้าในการพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่และระบบจัดเก็บพลังงานที่สามารถประยุกต์ใช้ในภารกิจทางทหารได้หลากหลายรูปแบบ เช่น การจ่ายไฟฟ้าสำหรับระบบสื่อสารในพื้นที่ห่างไกลและชายแดน การสนับสนุนอุปกรณ์เฝ้าระวังและตรวจการณ์ และการสร้างความเป็นอิสระทางพลังงานในฐานทัพต่างๆ

สิ่งที่น่าสนใจคือการที่เทคโนโลยีเหล่านี้ไม่เพียงแต่ตอบสนองต่อความต้องการทางทหารเท่านั้น แต่ยังสามารถต่อยอดไปสู่การใช้ประโยชน์ในภาคพลเรือนและสังคมไทยได้อย่างกว้างขวาง การพัฒนาระบบจัดเก็บพลังงานสำหรับการใช้งานทางทหารจะช่วยเร่งการพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถนำมาใช้ในการสนับสนุนระบบไฟฟ้าของชุมชนห่างไกล โรงพยาบาลในพื้นที่ทุรกันดาร และการสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม

การสัมมนาครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมจากหน่วยงานวิจัยต่างๆ ของกองทัพบก สถาบันการศึกษาชั้นนำ และภาคเอกชนรวมกว่า 150 คน ซึ่งได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความรู้ และวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อความมั่นคงแห่งชาติ การมีส่วนร่วมของผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนมุมมองที่หลากหลายและสร้างสรรค์ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนานวัตกรรมที่ตอบสนองต่อความต้องการที่แท้จริงของประเทศ

การมีส่วนร่วมของ kkUVolts ในครั้งนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนศักยภาพของการวิจัยและพัฒนาของมหาวิทยาลัยขอนแก่นเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญในการเชื่อมโยงเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษา ภาคอุตสาหกรรม และภาคกองทัพ การสร้างความร่วมมือแบบสามเหลี่ยมนี้จะนำไปสู่การสร้างระบบนิเวศพลังงานสะอาดและนวัตกรรมเพื่อความมั่นคงที่ยั่งยืน ซึ่งจะช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศและสร้างความเป็นอิสระทางเทคโนโลยีให้กับประเทศไทย

ผลจากการเข้าร่วมสัมมนาครั้งนี้คาดว่าจะนำไปสู่การพัฒนาโครงการวิจัยร่วมระหว่าง kkUVolts และหน่วยงานวิจัยของกองทัพบกในอนาคตอันใกล้ ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้นักวิจัยและนักศึกษาได้เข้าถึงแหล่งทุนวิจัยใหม่และมีโอกาสพัฒนาเทคโนโลยีที่มีผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม นอกจากนี้ การสร้างเครือข่ายความร่วมมือนี้ยังจะช่วยเร่งการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากห้องปฏิบัติการสู่การใช้งานจริง และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจจากการพัฒนานวัตกรรมเชิงพาณิชย์

กิจกรรมสำคัญนี้สะท้อนการตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในหลายมิติอย่างเป็นรูปธรรม ในด้านพลังงานสะอาดที่ทุกคนเข้าถึงได้ การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่และระบบจัดเก็บพลังงานสำหรับการใช้งานทางทหารและพลเรือนช่วยสนับสนุนแผนงานลดการใช้พลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงการเผยแพร่ความรู้ด้านประสิทธิภาพพลังงานสู่ชุมชนและอุตสาหกรรม ในด้านอุตสาหกรรม นวัตกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน การแลกเปลี่ยนความรู้และเทคโนโลยีช่วยยกระดับอุตสาหกรรมพลังงานและนวัตกรรมไทยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก และสร้างรายได้จากการพัฒนานวัตกรรมเชิงพาณิชย์ และในด้านความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน การสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษา อุตสาหกรรม และกองทัพเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการจัดเวทีเสวนาข้ามภาคส่วนและความร่วมมือกับภาครัฐเพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

การดำเนินงานครั้งนี้จึงเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความมั่นคงและความยั่งยืนให้กับประเทศไทยผ่านการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานสะอาดที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้งในภาคทหารและพลเรือน ความสำเร็จของการสัมมนาครั้งนี้จะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศไทยสู่ความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีสีเขียวและความมั่นคงทางพลังงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

ลิงก์ข่าว, เพจ Facebook หรือสื่ออื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง https://www.facebook.com/photo/?fbid=1592182478712065&set=a.664772244786431

SDGs7917
Scroll to Top