การเลี้ยงผึ้งโพรงและชันโรง ขุมทรัพย์แห่งความหลากหลายทางชีวภาพสู่ความยั่งยืนของชุมชน
โครงการนี้เกิดขึ้นจากการตระหนักถึงปัญหาการลดลงของประชากรผึ้งพื้นเมืองในภูมิภาคอีสาน ซึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม การใช้สารเคมีในการเกษตร และการขาดความรู้ในการอนุรักษ์และเลี้ยงดูผึ้งพื้นเมืองอย่างถูกต้อง ผึ้งโพรงและชันโรงเป็นผึ้งพื้นเมืองที่มีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศ ไม่เพียงแต่ช่วยในการผสมเกสรของพืชป่าและพืชเกษตรเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งผลิตน้ำผึ้งคุณภาพสูงที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจและสุขภาพ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2568 ณ ไร่ตะวัน จังหวัดหนองบัวลำภู คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (BEDO) และมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดร จัดดำเนินโครงการ “การเลี้ยงผึ้งโพรงและชันโรง ขับเคลื่อนธนาคารความหลากหลายทางชีวภาพระดับชุมชน ส่งเสริมการอนุรักษ์ผึ้งโพรงและชันโรงในอีสาน” ร่วมกับเกษตรกรกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรยั่งยืนโป่งแค ตำบลด่านช้าง อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู

โครงการนี้สะท้อนถึงเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนข้อที่ 1 ด้านการขจัดความยากจนผ่านการสนับสนุนผู้ประกอบการใหม่และสตาร์ทอัพในชุมชน โดยการเลี้ยงผึ้งโพรงและชันโรงเป็นอาชีพที่สามารถสร้างรายได้เสริมให้กับเกษตรกรได้อย่างยั่งยืน ไม่ต้องลงทุนสูงแต่ให้ผลตอบแทนที่ดี และสอดคล้องกับเป้าหมายข้อที่ 2 ด้านการขจัดความหิวโหยผ่านการให้ความรู้และอบรมด้านความมั่นคงทางอาหารแก่ชุมชน เนื่องจากน้ำผึ้งจากผึ้งพื้นเมืองมีคุณค่าทางโภชนาการสูงและเป็นแหล่งอาหารธรรมชาติที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
วัตถุประสงค์หลักของโครงการคือการร่วมกันเสริมสร้างองค์ความรู้พื้นฐานอันจำเป็นสำหรับการสำรวจทรัพยากรพืชในระดับชุมชน พร้อมทั้งส่งเสริมการอนุรักษ์และจัดเก็บทรัพยากรชีวภาพผ่านกลไกธนาคารความหลากหลายทางชีวภาพระดับชุมชน ซึ่งเป็นแนวคิดที่ล้ำสมัยในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนโดยชุมชนเป็นเจ้าของและผู้ดูแลหลัก
รูปแบบการดำเนินงานของโครงการได้รับการออกแบบอย่างครอบคลุมและเป็นระบบ โดยเริ่มจากการให้ความรู้เกี่ยวกับชีววิทยาและนิเวศวิทยาของผึ้งโพรงและชันโรง การระบุชนิดและลักษณะเฉพาะของผึ้งพื้นเมืองแต่ละชนิด เทคนิคการเลี้ยงดูและจัดการรังผึ้งอย่างถูกต้อง การเก็บรักษาน้ำผึ้งให้ได้คุณภาพ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากน้ำผึ้งเพื่อเพิ่มมูลค่า นอกจากนี้ยังมีการสอนเกี่ยวกับการจัดตั้งและบริหารจัดการธนาคารความหลากหลายทางชีวภาพระดับชุมชน ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการอนุรักษ์พันธุ์พืชและสัตว์พื้นเมือง

ความโดดเด่นของโครงการนี้อยู่ที่การผสมผสานระหว่างภูมิปัญญาท้องถิ่นกับองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ โดยให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของชุมชนในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวางแผน การดำเนินงาน ไปจนถึงการติดตามและประเมินผล การที่โครงการดำเนินการในพื้นที่จริงของเกษตรกรกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรยั่งยืนโป่งแค ทำให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ทันที
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากโครงการแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จอย่างชัดเจน โดยมีเกษตรกรที่เลี้ยงผึ้งชันโรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเกษตรกรกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรยั่งยืนโป่งแคได้รับการเสริมสร้างขีดความสามารถในการจัดการทรัพยากรชีวภาพอย่างยั่งยืน การเพิ่มขึ้นของจำนวนเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการไม่เพียงแต่แสดงถึงความสนใจและการยอมรับของชุมชนเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างเครือข่ายการอนุรักษ์ที่แข็งแกร่งและยั่งยืน
ผลกระทบของโครงการนี้มีมิติที่กว้างไกลและสร้างความยั่งยืนในหลายระดับ ในระดับบุคคล เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการได้รับความรู้และทักษะใหม่ที่สามารถสร้างรายได้เสริมได้อย่างยั่งยืน การเลี้ยงผึ้งโพรงและชันโรงไม่ต้องใช้พื้นที่เกษตรมาก ไม่ขัดแย้งกับการทำการเกษตรหลัก และสามารถทำควบคู่ไปกับอาชีพเดิมได้ ในระดับชุมชน การจัดตั้งธนาคารความหลากหลายทางชีวภาพระดับชุมชนช่วยสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนในการจัดการทรัพยากรด้วยตนเอง

ในระดับสิ่งแวดล้อม การอนุรักษ์ผึ้งพื้นเมืองช่วยรักษาสมดุลของระบบนิเวศ เพิ่มประสิทธิภาพการผสมเกสรของพืชป่าและพืชเกษตร ส่งผลให้เกิดการฟื้นตัวของป่าไผ่และป่าชุมชน การลดการใช้สารเคมีในการเกษตรเพื่อปกป้องผึ้ง ยังช่วยลดมลพิษในสิ่งแวดล้อมและเพิ่มความปลอดภัยของผลผลิตทางการเกษตร
ในระดับเศรษฐกิจ การพัฒนาผลิตภัณฑ์จากน้ำผึ้งพื้นเมืองสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับชุมชน น้ำผึ้งจากผึ้งโพรงและชันโรงมีราคาสูงกว่าน้ำผึ้งทั่วไปเนื่องจากคุณภาพและคุณประโยชน์ที่เป็นเอกลักษณ์ การสร้างตราสินค้าชุมชนและการตลาดออนไลน์ช่วยเพิ่มช่องทางการขายและเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง
โครงการ “การเลี้ยงผึ้งโพรงและชันโรง ขับเคลื่อนธนาคารความหลากหลายทางชีวภาพระดับชุมชน” จึงไม่เพียงแต่เป็นการอนุรักษ์สิ่งมีชีวิตเท่านั้น แต่เป็นการสร้างแบบจำลองการพัฒนาที่ยั่งยืนที่สามารถผสานการอนุรักษ์ธรรมชาติเข้ากับการสร้างรายได้ของชุมชนได้อย่างลงตัว การสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ และชุมชน ยังเป็นต้นแบบที่สำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลต่อการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืนในระยะยาว
ลิ้งก์ข่าว, เพจ Facebook หรือสื่ออื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง https://www.facebook.com/share/15BjDve3Fk1/
ผู้ให้ข้อมูลติดต่อกลับ นางพจมาลย์ ธำรงยศวิทยากุล /093-563-5424