Overall

          มหาวิทยาลัยขอนแก่นตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรน้ำ โดยเฉพาะบริบทของภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ประสบปัญหาภัยแล้งซ้ำซ้อน จึงมุ่งเน้นการสร้างองค์ความรู้ผ่านงานวิจัยด้านการบริหารจัดการน้ำ การดำเนินมาตรการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ภายในมหาวิทยาลัย พร้อมกับการให้บริการวิชาการเพื่อเสริมศักยภาพชุมชนในการจัดการทรัพยากรน้ำของตนเองอย่างยั่งยืน

          มหาวิทยาลัยเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทในการเรียนการสอน การวิจัย และงานบริการวิชาการในสหวิทยาการ ทั้งวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และวิทยาศาสตร์สุขภาพ ซึ่งเป็นฐานสำคัญในการผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ คุณธรรม จริยธรรม และสำนึกสาธารณะ มหาวิทยาลัยจึงมุ่งขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยยึดหลักการอนุรักษ์ ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของบุคลากรและนักศึกษา

          มหาวิทยาลัยเน้นการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบเพื่อให้เกิดการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ น้ำประปามีคุณภาพและเพียงพอต่อการใช้งาน ควบคุมการสูญเสียน้ำในทุกภาคส่วนของมหาวิทยาลัย ควบคุมคุณภาพน้ำทิ้งและส่งเสริมการนำกลับมาใช้ประโยชน์อย่างสูงสุด โดยกำหนดให้เป็นมาตรการที่ต้องดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อรับมือกับภาวะฝนทิ้งช่วงและภัยแล้งที่เกิดเป็นประจำ

          เพื่อยกระดับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้กำหนดนโยบายขับเคลื่อนสู่การเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว (Green university) ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเป็นแบบอย่างต่อชุมชนโดยรอบ อาศัยอำนาจตามมาตรา 37 (1) แห่งพระราชบัญญัติ มหาวิทยาลัยขอนแก่น พ.ศ. 2558 ประกาศนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาวะอนามัย และความปลอดภัยเพื่อให้หน่วยงาน บุคลากร นักศึกษา และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ตระหนักและปฏิบัติตามกรอบนโยบายดังกล่าวอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม

ประกาศมหาวิทยาลัยขอนแก่น

 

ฉบับที่         / ๒๕๖๘

เรื่อง มาตรการบริหารจัดการน้ำ พ.ศ. ๒๕๖๘

 

ด้วยมหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นมหาวิทยาลัยที่มีการเรียนการสอน การวิจัย งานบริการวิชาการทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์สุขภาพ และสถานบริการทางการแพทย์ ที่ล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญของการผลิตบัณฑิตในสาขาที่สอดคล้องกับความต้องการของสังคม ส่งเสริมการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่มีความรู้ คุณธรรม จริยธรรม ตลอดจนการสร้างบัณฑิตที่มีสำนึกสาธารณะ รับผิดชอบต่อสังคม มหาวิทยาลัยมีเป้าหมายในการขับเคลื่อนสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน มีความรับผิดชอบต่อสังคม ด้วยฐานองค์ความรู้และความเข้าใจ ถึงหลักการของการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ด้วยการมีส่วนร่วมของบุคลากรและนักศึกษาภายในมหาวิทยาลัย และตอบสนองต่อสภาวะภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง

น้ำ ถือเป็นปัจจัยสำคัญของการดำรงชีวิต เพื่อให้มีการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ น้ำประปามีคุณภาพ         มีปริมาณน้ำใช้สำหรับทุกกิจกรรมอย่างเหมาะสมและพอเพียง สอดรับกับแนวโน้มสภาวะการณ์ในปัจจุบันของประเทศที่มีปริมาณฝนไม่สม่ำเสมอจนเกิดเป็นวิกฤติภัยแล้งเป็นประจำทุกปี สามารถควบคุมการสูญเสียน้ำใน          ทุกภาคส่วนของมหาวิทยาลัย มีการควบคุมคุณภาพน้ำทิ้งและนำน้ำที่ผ่านการบำบัดมาหมุนเวียนใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด มหาวิทยาลัยขอนแก่นจึงได้กำหนดเป็นมาตรการที่ต้องดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพ 

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๓๗ (๑) แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยขอนแก่น พ.ศ. ๒๕๕๘ จึงออกประกาศมหาวิทยาลัยขอนแก่น เรื่อง มาตรการบริหารจัดการน้ำ พ.ศ. ๒๕๖๘ ไว้ดังนี้

ข้อ ๑ มาตรการการบริหารจักรน้ำดิบ

มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีหน้าที่ในการดูแลแหล่งน้ำสำคัญ ได้แก่ อ่างเก็บน้ำบ้านโกทา อ่างเก็บน้ำสระพลาสติก เป็นแหล่งน้ำหลักในการผลิตน้ำประปาภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น รวมถึงได้รับการจัดสรรน้ำมาจากโครงการส่งเสริมและบำรุงรักษาหนองหวาย ผ่านคลองส่งน้ำชลประทาน โดย

  1. มหาวิทยาลัย จะดำเนินการตรวจสอบ ซ่อมแซม บำรุงรักษา วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องจักร เครื่องยนต์ สิ่งก่อสร้าง อุปกรณ์ควบคุม และการตรวจวัด ของระบบส่งน้ำดิบของมหาวิทยาลัยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้การทำงานได้มีประสิทธิภาพ และสูบจ่ายน้ำดิบได้อย่างต่อเนื่อง
  2.  มหาวิทยาลัยจะดำเนินการตรวจสอบ ซ่อมแซม บำรุง รักษา ท่อจ่ายน้ำหลัก มาตรวัด และ ประตูน้ำของระบบส่งจ่ายน้ำดิบให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ไม่เกิดการรั่วซึม แตกร้าว หรือชำรุด
  3. มหาวิทยาลัยจะดำเนินการตรวจสอบคุณภาพน้ำดิบในแหล่งกักเก็บต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการควบคุมคุณภาพ และลดการใช้สารเคมีในการปรับปรุงคุณภาพน้ำเกินความจำเป็น
  4.  มหาวิทยาลัยจะดำเนินการจัดทำข้อมูลประมาณน้ำดิบ เพื่อติดตามสถานการณ์ปริมาณน้ำดิบ ประเมินจุดเสี่ยงของปริมาณน้ำดิบที่อยู่ในระดับวิกฤติจนเกิดเป็นสภาวะขาดแคลนน้ำดิบสำหรับการผลิตน้ำประปา
  5. กรณีเกิดสถานการณ์ขาดแคลนน้ำจากต้นทาง และปริมาณน้ำดิบในแหล่งสำรองน้ำ ได้แก่ โรงสูบน้ำบ้านโกทา และอ่างเก็บน้ำสระพลาสติก อยู่ในระดับวิกฤต มหาวิทยาลัยจะกำหนดมาตรการเป็นประกาศ มหาวิทยาลัย เพื่อจัดการสถานการณ์ขาดแคลนน้ำในทันที

ข้อ ๒ มาตรการการใช้น้ำประปา

  1. มหาวิทยาลัยจะดำเนินการตรวจสอบ ซ่อมแซม บำรุงรักษา วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องจักร เครื่องยนต์ สิ่งก่อสร้าง อุปกรณ์ควบคุม และการตรวจวัดของระบบการผลิตและจ่ายน้ำของมหาวิทยาลัยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้การทำงานได้มีประสิทธิภาพ และสูบจ่ายน้ำดิบได้อย่างต่อเนื่อง
  2. มหาวิทยาลัยจะดำเนินการตรวจสอบ ซ่อมแซม บำรุง รักษา ท่อจ่ายน้ำหลัก มาตรวัด และ ประตูน้ำของระบบจ่ายน้ำประปาให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ไม่เกิดการรั่วซึม แตกร้าว หรือชำรุด
  3. มหาวิทยาลัยจะดำเนินการตรวจสอบ ซ่อมแซม บำรุงรักษาเครื่องสุขภัณฑ์ วาวน้ำ มาตรวัดน้ำ และวัสดุอุปกรณ์ที่มีการรั่วซึมหรือหมดสภาพการใช้งาน ในพื้นที่การดูแลส่วนกลางให้มีประสิทธิภาพ และใช้งาน ได้ตามปกติตลอดเวลา เพื่อให้ใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพลดการสูญเสียน้ำ หากพบว่าความชำรุดจะดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมเพื่อให้ใช้งานได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด
  4. มหาวิทยาลัยจะดำเนินการตรวจสอบคุณภาพน้ำประปาที่จ่ายให้ผู้บริโภคใช้อย่างสม่ำเสมอ และควบคุมคุณภาพน้ำประปาให้เป็นไปตามมาตรฐานน้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาค

ข้อ ๓ มาตรการการจัดการน้ำเสีย

  1. มหาวิทยาลัยจะดำเนินการควบคุมการเดินระบบบำบัดน้ำเสีย วิเคราะห์คุณภาพน้ำในระบบบำบัดน้ำเสียก่อนและหลังการบำบัดให้เป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพน้ำทั้ง ประเภท ก ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดมาตรฐานควบคุมการะบายน้ำทิ้ง จากอาคารบางประเภทและบางขนาด พ.ศ. ๒๕๕๘
  2. มหาวิทยาลัยจะดำเนินการตรวจสอบ ซ่อมแซม บำรุงรักษา ระบบท่อรวบรวมน้ำทิ้ง สิ่งปลูกสร้าง เครื่องสูบน้ำ และอุปกรณ์ในระบบบำบัดน้ำเสียให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ หากพบว่าอุปกรณ์ เครื่องจักรชำรุด ต้องดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมเพื่อให้ได้งานได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด
  3. มหาวิทยาลัยจะดำเนินการวิเคราะห์คุณภาพน้ำของแหล่งน้ำภายในมหาวิทยาลัย และระบบระบายน้ำภายนอก เพื่อวิเคราะห์หาการปนเปื้อน หากพบว่ามีการปนเปื้อนมหาวิทยาลัยจะต้องรีบดำเนินการแก้ไขโดยเร็ว
  4. มหาวิทยาลัยจะดำเนินการตรวจสอบ ซ่อมแซม บำรุงรักษา ระบบท่อจ่ายน้ำ ที่ผ่านการบำบัดแล้วให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ไม่เกิดการรั่วซึม หรือชำรุด และขยายท่อจ่ายน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้วให้ครอบคลุมพื้นที่สัญจรสนามกีฬาและแปลงปลูก

ข้อ ๔ มาตรการการจัดการน้ำผิวดิน

  1. มหาวิทยาลัยต้องมีการวางแผนจัดการน้ำภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่นโดยควบคุมไม่ให้มีการปล่อยน้ำเสียที่ไม่ผ่านการบำบัดลงสู่ระบบรวบรวมน้ำฝนและแหล่งน้ำธรรมชาติ
  2. มหาวิทยาลัยต้องมีการพัฒนา และดูแลรักษาแหล่งน้ำภายในมหาวิทยาลัย ให้สามารถกักเก็บน้ำไว้ในช่วงฤดูฝนเพื่อสำรองใช้ในฤดูแล้ว
  3. มหาวิทยาลัยต้องมีการติดตามคุณภาพแหล่งน้ำอย่างต่อเนื่อง

ข้อ ๕ มาตรการสำหรับผู้ใช้น้ำ

  1. ให้ทุกส่วนงานบริหารจัดการการใช้น้ำให้เป็นไปตามประกาศ
  2. ให้ส่วนงานเลือกใช้อุปกรณ์และสุขภัณฑ์ที่ใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งจัดซื้ออุปกรณ์ที่เน้นการประหยัดน้ำหรือสินค้าที่มรีนโยบายรักษาสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์น้ำ
  3. ให้ส่วนงานดำเนินการตรวจสอบระบบน้ำประปะภายในส่วนงาน โดยครอบคลุมการตรวจสอบ หรือติดตั้งมาตรวัดน้ำประปาของส่วนงาน ให้มีสภาพใช้งานได้อยู่ตลอด บำรุงรักษาหรือซ่อมแซมเพื่อไม่ให้มีการรั่วไกลของน้ำประปาโดยสูญเปล่า และมีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ
  4. ให้ส่วนงานใช้น้ำจากบ่อเก็บน้ำธรรมชาติและน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้ว ในการดูแลสวนหย่อม สนามกีฬา และแปลงเพาะปลูก แทนการใช้น้ำดิบและน้ำประปา
  5. ให้ส่วนงานลดหรือหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี สารกำจัดศัตรูพืช เพื่อป้องกันการปนเปื้อนสู่คู คลอง และแหล่งน้ำภายในมหาวิทยาลัย
  6.  ห้ามให้ส่วนงานปล่อยน้ำเสียจากอาคารออกสู่ระบบระบายน้ำผิวดินโดยตรง โดยไม่ผ่านการบำบัดหรือบ่อดักไขมัน และควรเชื่อมระบบน้ำเสียจากอาคารเข้าสู่ระบบรวบรวมน้ำเสียรวมของมหาวิทยาลัย
  7. ให้ส่วนงานดำเนินการตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์ เครื่องจักรที่ใช้กับระบบบำบัดน้ำเสียของอาคารอย่างสม่ำเสมอ หากพบว่าอุปกรณ์ เครื่องจักรชำรุด ต้องดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมเพื่อให้ใช้งานได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด
  8. ให้ส่วนงานกำหนดเป้าหมายการประหยัดน้ำประปาในแต่ละปี โดยสื่อสารให้บุคลากรและนักศึกษาทุกคนเข้าใจและปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม
  9. ให้ส่วนงานรณรงค์และส่งเสริมให้บุคลากรและนักศึกษา ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้น้ำอย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพ

Policy

ประกาศมหาวิทยาลัยขอนแก่น

 

ฉบับที่         / ๒๕๖๘

เรื่อง นโยบายสิ่งแวดล้อม สุขภาวะอนามัย และความปลอดภัยภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น

 

ตามที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีนโยบายในการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยสู่การเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว (Green university) ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สร้างสังคมน่าอยู่ในชุมชน มหาวิทยาลัย และเป็นแบบอย่างที่ดีต่อชุมชนและสังค โดยรอบ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๓๗ (๑) แห่งพระราชบัญญัติ มหาวิทยาลัยขอนแก่น พ.ศ. ๒๕๕๘ จึงได้ประกาศนโยบายสิ่งแวดล้อม สุขภาวะอนามัย และความปลอดภัยภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อให้หน่วยงาน บุคลากร นักศึกษา และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน ได้มีส่วนร่วม ตระหนักและดำเนินการจัดการสิ่งแวดล้อมภายใต้กรอบนโยบายด้านมหาวิทยาลัยสีเขียว (Green university) ดังต่อไปนี้

  1. ปฏิบัติตามนโยบาย กฎหมาย ข้อบังคับ  ระเบียบประกาศทางด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยสีเขียว สำนักงานสีเขียว และการจัดการพลังงานให้มีประสิทธิภาพ คุ้มค่า และบรรลุเป้าหมายของมหาวิทยาลัย และพัฒนาคุณภาพให้มีระดับการประเมินที่สูงขึ้น ในการจัดอันดับมหาวิทยาลัยสีเขียว (Green university)
  2.  สนับสนุน ส่งเสริมให้ทุกส่วนงานในมหาวิทยาลัย ต้องเข้ารับการตรวจประเมินสำนักงานสีเขียว (Green officer) ภายใน พ.ศ. ๒๕๖๕
  3. บริหารจัดการและดำเนินการเพื่อสนับสนุนการเข้ารับการตรวจประเมิน Green University Ranking ใน ๖ ด้าน ได้แก่

๓.๑ ด้านกายภาพ (Setting & Infrastructure)

๓.๑.๑ สนับสนุนและส่งเสริมให้มีการทบทวนและจัดทำผังแม่บทด้านการใช้ประโยชน์พื้นที่มหาวิทยาลัย การจัดทำผังเฉพาะและพัฒนาให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การใช้งานพื้นที่ตามยุทธศาสตร์

๓.๑.๒ สนับสนุนและส่งเสริมให้มีการเพิ่มพื้นที่สีเขียวของมหาวิทยาลัยอย่างต่อเนื่อง

๓.๑.๓ สนับสนุนและส่งเสริมให้มีการจัดการไม้ยืนต้น การอนุรักษ์ต้นไม้และปลูกทดแทน การฟื้นฟูป่าและพื้นที่เสื้อมโทรม เพื่อพัฒนาระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ (Ecosystem & biodiversity)

๓.๑.๔. สนับสนุนและส่งเสริมให้หน่วยงานจัดการด้านสภาพแวดล้อม สุขภาวะอนามัยที่ดีที่เอื้อและส่งเสริมต่อการทำงาน การเรียนการสอน รวมทั้งการดูแลด้านความปลอดภัยของบุคลากรและนักศึกษาอย่างเหมาะสม

๓.๒ ด้านพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Energy & Climate Change) 

๓.๒.๑ ดำเนินการ และพัฒนาระบบการจัดการพลังงานและบริหารจัดการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเหมาะสม เพื่อให้หน่วยงานใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน โดยกำหนดให้เป็นส่วนหนึ่งของการทำงานของมหาวิทยาลัย และให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และข้อกำหนดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

๓.๒.๒ ดำเนินการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานอย่างต่อเนื่องและเหมาะสมกับการใช้งาน สนับสนุนและส่งเสริมให้ทุกหน่วยงานในมหาวิทยาลัยลดปริมาณการใช้พลังงานโดยการปรับปรุงปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ภายในอาคารให้เป็นอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน การนำเทคโนโลยีและแนวทางการปฏิบัติงานที่ดี ตลอดจนการใช้พลังงานทดแทนเพื่อลดการใช้พลังงงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

๓.๒.๓ สนับสนุนและส่งเสริมให้หน่วยงานมีการพัฒนานวัตกรรมด้านพลังงาน การสร้างแนวปฏิบัติที่ดีในการอนุรักษ์พลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการนำพลังงานทดแทนมาช่วยลดการใช้พลังงานในกิจกรรมต่างๆ ของมหาวิทยาลัย

๓.๒.๔ ส่งเสริมให้เกิดการใช้พลังงานทดแทนขึ้นภายในมหาวิทยาลัย

๓.๒.๕ สนับสนุนให้มีการพัฒนา ปรับปรุง (Building renovation) และออกแบบอาคาร (Passive Design for Buildings) ของหน่วยงานให้เป็นอาคารสีเขียว (Green Building) อาคารประหยัดพลังงาน (Energy Saving Building) และอาคารอัจฉริยะ (Smart Building)

๓.๒.๖  ลดดัชนีการใช้พลังงานต่อคน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมต่างๆ ของหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัย

๓.๒.๗ ประชาสัมพันธ์และสร้างจิตสำนึกด้วยการอนุรักษ์พลังงานให้แก่นักศึกษาและบุคลากรของมหาวิทยาลัย รวมถึงประชาชนทั่วไปอย่างจริงจังและต่อเนื่อง

๓.๓ ด้านการจัดการของเสีย (Waste)

๓.๓.๑ สนับสนุนและส่งเสริมให้หน่วยงานลดปริมาณการเกิดขยะ การคัดแยกขยะมูลฝอย และขยะอันตราย ตามหลักการ 3Rs ได้แก่ การลดการใช้ทรัพยากรและการลดการเกิดขยะ (Reduce) การใช้ซ้ำและใช้ให้คุ้มค่า (Reuse) และการนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) ลดการใช้พลาสติก โฟม ในมหาวิทยาลัย

๓.๓.๒ บริหารจัดการและพัฒนา ระบบที่สนับสนุนการลดการคัดแยก และการจัดการขยะมูลฝอยและขยะอันตรายที่มีประสิทธิภาพ ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง

๓.๓.๓ แบบนั้นการบริหารจัดการควบคุมและพัฒนาระบบบำบัดน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพ

๓.๓.๔ สนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาระบบรวบรวมน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพและเหมาะกับการใช้งาน ลดการปนเปื้อนของน้ำเสียสู่แหล่งน้ำภายในมหาวิทยาลัย

๓.๓.๕ ดำเนินการติดตามและควบคุมคุณภาพน้ำเสียที่มาจากหน่วยงานและน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแล้ว

๓.๓.๖ สนับสนุนและส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการจัดการน้ำเสีย ขยะมูลฝอยและขยะอันตราย

๓.๓.๗ ดำเนินการให้ความรู้ การสนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรมที่สร้างวินัยและสร้างจิตสำนึกให้กับบุคลากรทุกระดับ นักศึกษา และประชาชนโดยรอบมหาวิทยาลัย เพื่อให้เกิดวัฒนธรรมองค์กรในการจัดการขยะอย่างยั่งยืน และการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า

๓.๔ ด้านการจัดการน้ำ (Water)

๓.๔.๑ รณรงค์และส่งเสริมให้ใช้น้ำประปาอย่างประหยัด โดยให้ทุกหน่วยงานลดปริมาณการใช้น้ำโดยการปรับปรุงอุปกรณ์ภายในอาคารให้เป็นอุปกรณ์ประหยัดน้ำ

๓.๔.๒ ให้มีการจัดการน้ำ เพื่อการเกษตรแทนการใช้น้ำประปาและน้ำดิบ มีการนำน้ำทิ้งที่ผ่านการบำบัดแล้วกลับมาใช้ใหม่

๓.๔.๓ มีระบบการบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพที่ครอบคลุมการจัดการน้ำผิวดิน และการสำรองน้ำสำหรับกิจกรรมการเกษตรและน้ำดิบในการผลิตน้ำประปา

๓.๔.๔ มีการจัดการน้ำอุปโภค บริโภค ที่มีคุณภาพและเพียงพอต่อการบริโภคของมหาวิทยาลัย

๓.๔.๕ มีแผนการจัดการน้ำสูญเสีย โดยการติดตาม รวบรวมสถิติการใช้น้ำ และจัดทำฐานข้อมูลการใช้น้ำของหน่วยงาน

๓.๔.๖ ไม่ทิ้งของเสียหรือสารเคมีต่างๆ ลงในแหล่งน้ำของมหาวิทยาลัย

๓.๕ ด้านการขนส่ง (Transportation) 

๓.๕.๑ จำกัดปริมาณรถ เข้า-ออก ในพื้นที่มหาวิทยาลัย รวมถึงการจัดเขตควบคุมยานพาหนะสัญจรในมหาวิทยาลัย

๓.๕.๒ มีการจัดการความปลอดภัยด้านการจราจร

๓.๕.๓ ให้หน่วยงานส่งเสริมการใช้จักรยาน และการเดิน ในการเดินทางภายในมหาวิทยาลัย

๓.๕.๔ จำกัดพื้นที่จอดรถและพื้นที่ควบคุมยานพาหนะสัญจร ส่งเสริมการเดินระหว่างอาคาร และส่งเสริมการใช้ขนส่งมวลชนระหว่างพื้นที่

๓.๕.๕ มีการจัดการระบบขนส่งมวลชนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่เพียงพอและสอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้งาน

๓.๖ ด้านการศึกษา (Education & Research)

๓.๖.๑ สนับสนุนรายวิชาหรือการจัดหลักสูตร/การอบรมระยะสั้น ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม การประหยัดพลังงาน ความยั่งยืน

๓.๖.๒ สนับสนุนงบวิจัย การตีพิมพ์ผลงานวิจัย/วิชาการ และบริการวิชาการที่สร้างองค์ความรู้หรือการต่อยอดทางด้านสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืน

๓.๖.๓ มีการจัดการให้ความรู้ ประชาสัมพันธ์ สร้างความตระหนักรู้ รวมทั้งกิจกรรมที่ส่งเสริม และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การลดการใช้พลังงาน และการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การเตรียมความพร้อมการรับมือกับภาวะโลกร้อน รวมทั้งการลดปัญหา สภาวะโลกร้อน การพัฒนาพื้นที่สีเขียว อย่างน้อย ๒ โครงการ/ภาคเรียน/หน่วยงาน

๔. ให้หน่วยงานมีการจัดการความรู้ เผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ สร้างความตระหนักรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม           การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การอนุรักษ์พลังงาน และการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การเตรียมความพร้อมรับมือกับสภาวะโลกร้อน การพัฒนาพื้นที่สีเขียวให้กับบุคลากรนักศึกษา ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องประชาชน

๕. ให้หน่วยงานดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง โดยต้องใช้หรือคำนึงถึงผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น มีฉลากสีเขียว (Green label) ฉลากเบอร์ ๕ สินค้าหรือผลิตภัณฑ์มีการรับรองระบบการจัดการ ISO 140000 หรือ ISO 26000 ตราส่งเสริมผลิตภัณฑ์ (Bio-economy) เป็นต้น และต้องได้รับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม

๖. ให้ผู้บริหารหน่วยงานมีการติดตาม ตรวจสอบ และรายงานผลความเปลี่ยนแปลงทุกเดือนต่อมหาวิทยาลัย รวมทั้งมีการประเมินผลการดำเนินงานอย่างน้อยปีละ ๑ ครั้ง (ภายในเดือนสิงหาคมของทุกปี)

๗. ให้มหาวิทยาลัยและหน่วยงานจัดให้มีการดูแล ส่งเสริม ป้องกันด้านความปลอดภัยในเรื่องความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน เช่น ทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย หน่วยงาน และบุคลากร สุขภาพอนามัย ทั้งการส่งเสริมสุขภาพ การรณรงค์ และการป้องกัน

๘. ส่งเสริมและจัดสรรงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืน

Policy

Project

การสร้างสิทธิชุมชนเพื่อการจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน: บทเรียนจากแก่งละว้าที่เชื่อมโยงกฎหมายกับภูมิปัญญาท้องถิ่น

อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น มีแหล่งน้ำธรรมชาติที่เรียกว่า "แก่งละว้า" ซึ่งเป็นมากกว่าแหล่งน้ำธรรมดา แต่เป็นสัญลักษณ์ของความเชื่อมโยงระหว่างชุมชนกับธรรมชาติที่ดำรงอยู่มาช้านาน...

Read More

ประมงน้ำน้อย: นวัตกรรมเกษตรยั่งยืนเพื่อความมั่นคงทางอาหารและรายได้ชุมชน

ทรัพยากรน้ำกำลังขาดแคลนและความต้องการโปรตีนจากสัตว์น้ำเพิ่มสูงขึ้น การหาทางเลือกในการเลี้ยงสัตว์น้ำที่ใช้น้ำน้อยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจึงกลายเป็นความจำเป็นเร่งด่วน สาขาวิชาประมง คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกับเทศบาลตำบลเมืองเก่า...

Read More

นักวิจัย ม.ขอนแก่น ผุดโครงการวิจัย เติมน้ำใต้ดิน แก้ไขภัยแล้งยั่งยืน

ประเทศไทยประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นส่วนใหญ่ น้ำจึงเป็นทรัพยากรสำคัญ แต่ปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง หรือฝนทิ้งช่วง มักก่อให้เกิดความแห้งแล้งในทุกภาคส่วนส่งผลเสียต่อชุมชน โดยเฉพาะกิจกรรมทางการเกษตร...

Read More

SDG6 News

Scroll to Top